กองทัพสหรัฐฯ ส่งทีมนักประดาน้ำเร่งกู้ซากบอลลูนจีนตกในทะเล หลังส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 ยิงขีปนาวุธเข้าใส่จนตก ทำจีนโกรธหนัก ประณามรุนแรง ยันบอลลูนลูกนี้เป็นเพียงบอลลูนติดตามสภาพอากาศ
เมื่อ 6 ก.พ. 2566 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน กองทัพเรือสหรัฐฯ ส่งทีมนักประดาน้ำค้นหาเศษซากบอลลูนลูกหนึ่งของจีน ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็น ‘บอลลูนสอดแนม’ และทางการสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจส่งเครื่องบินขับไล่ F-22 จากฐานทัพอากาศแลงลีย์ ในรัฐเวอร์จิเนีย บินทะยานขึ้นไปยิงขีปนาวุธแบบอากาศสู่อากาศ ‘AIM-9X ’ เข้าใส่บอลลูนลูกนี้ ขณะลอยอยู่ที่ระดับความสูง 60,000 ฟุต หรือประมาณ 18,300 เมตร จนตกในทะเล นอกชายฝั่งรัฐเซาท์ แคโรไลนา ในบริเวณน่านน้ำของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น และทำให้เศษซากบอลลูนแตกกระจายเป็นวงกว้าง
ทางการสหรัฐฯ พบบอลลูนลูกนี้เป็นครั้งแรก ขณะลอยเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ ใกล้รัฐอะแลสกา เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า และเชื่อว่าบอลลูนลูกนี้ของจีนเป็น ‘บอลลูนสอดแนม’ เพื่อติดตามสังเกตการณ์พื้นที่ทางทหารที่มีความละเอียดอ่อนของสหรัฐฯ ซึ่งหากการกู้เศษซากบอลลูนประสบความสำเร็จ อาจทำให้สหรัฐฯ ล่วงรู้ถึงศักยภาพด้านการสอดแนมของจีน และสามารถวิเคราะห์อุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดตั้งอยู่ในบอลลูนลูกนี้ได้

...
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้ตัดสินใจอนุมัติคำสั่งยิงบอลลูนของจีนเป็นครั้งแรก เมื่อวันพุธที่ 1 ก.พ. 2566 แต่ต้องรอจนกระทั่งบอลลูนได้ลอยไปห่างไกลชุมชน ซึ่งจะไม่ได้รับความเสี่ยงจากเศษซากของบอลลูน หากถูกยิงตก
อย่างไรก็ตาม ทางการจีนได้ประณามสหรัฐฯ อย่างหนักที่ยิงบอลลูนของจีน พร้อมกับปฏิเสธว่าบอลลูนลูกนี้ไม่ใช่บอลลูนสอดแนม แต่เป็นเพียง ‘บอลลูนตรวจสอบสภาพอากาศ’ มีจุดประสงค์เพื่อการวิจัย แต่ถูกกระแสลมพัดออกนอกทิศทางอย่างไม่คาดคิด

การมีบอลลูนของจีนลอยเข้ามาในน่านฟ้าของสหรัฐฯ ทำให้ นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ต้องยกเลิกการเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่งอย่างกะทันหัน ซึ่งจะนับเป็นการพบปะหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในรอบ 3 ปี
ด้าน พลเรือเอกไมค์ มัลเลน อดีตประธานเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า เขาคิดว่ากองทัพจีนอาจส่งบอลลูนลูกนี้เข้ามาด้วยความจงใจยับยั้งการเดินทางมาเยือนจีนของนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ‘นี่ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นความตั้งใจ มันเป็นความฉลาดมีไหวพริบ’ อดีตประธานเสนาธิการร่วมกองทัพสหรัฐฯ แสดงความเห็น