นายกรัฐมนตรีเยอรมนีออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้องให้เขาตัดสินใจส่งเครื่องบินรบให้แก่ยูเครน เพื่อช่วยรับมือรัสเซีย ไม่กี่วันหลังจากเขาเพิ่งรับปากส่งรถถังประจัญบานให้เคียฟ
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 ม.ค. 2566 นายโอลาฟ ชอลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ปฏิเสธข้อเรียกร้องให้พวกเขาส่งเครื่องบินรบให้ยูเครน ไม่กี่วันหลังจากเยอรมนีเพิ่งให้คำมั่นว่าจะส่งรถถังประจัญบานให้เคียฟ พร้อมเตือนชาติตะวันตกไม่ให้เข้าร่วมสงครามประมูลอาวุธล้ำสมัย
นายชอลซ์บอกกับ Tagesspiegel ว่า เขากำลังตั้งสมาธิกับการส่งมอบรถถัง เลพเพิร์ด 2 ให้ยูเครน “ข้อเท็จจริงที่ว่า เราเพิ่งตัดสินใจส่งรถถัง แต่ตอนนี้กลับเกิดการถกเถียงเรื่องเครื่องบินรบในเยอรมนีแล้ว แบบนี้มันดูไม่มีความหมายและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการตัดสินใจของรัฐบาล”
“ผมทำได้แค่แนะนำไม่ให้ (ชาติตะวันตก) เข้าสู่สงครามการประมูลระบบอาวุธเท่านั้น” นายชอลซ์กล่าว และย้ำด้วยว่า นาโตไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย และเยอรมนีจะไม่ยอมให้สถานการณ์บานปลายไปเป็นแบบนั้น
นายกฯ เยอรมนี ยืนยันด้วยว่า เขายังพูดคุยอย่างเป็นปกติกับวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ซึ่งโทรศัพท์พูดคุยกันครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 2565 โดยเขาย้ำว่าทุกฝ่ายจำเป็นต้องพูดคุยกัน แต่เขาชัดเจนเสมอว่า การรุกรานยูเครนของรัสเซียนั้น เป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง และมีเพียงการถอนทหารกลับไปเท่านั้นที่จะแก้ไขสถานการณ์ได้
ทั้งนี้ คำพูดของนายชอลซ์เกิดขึ้นหลังจากเริ่มเกิดกระแสเรียกร้องในเยอรมนีให้ส่งเครื่องบินรบไปช่วยยูเครนรับมือรัสเซีย ขณะที่ นายอันดรี เมลนิค รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของยูเครน เรียกร้องให้มีการจัดตั้งกลุ่ม ‘พันธมิตรเครื่องบินรบ’ (fighter jet coalition) ที่สามารถจัดหาเครื่องบินอย่าง F-16 และ F-35 ของสหรัฐฯ, เครื่องบินยูโรไฟเตอร์ของอังกฤษ, ทอร์นาโดของเยอรมนี, ราฟาเอลของฝรั่งเศส และ กริพเพนของสวีเดน ให้ยูเครนได้
...
ด้าน นายมิคไฮโล โพโดลียัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน กล่าวผ่านเครือข่ายโทรทัศน์อิสระของประเทศว่า ยูเครนยังต้องการมิสไซล์เพื่อลดอาวุธสำคัญของรัสเซียลงอย่างยิ่งยวดด้วย
ที่มา : bbc