เปรูได้ประธานาธิบดีหญิงคนแรก หลังอดีตประธานาธิบดี เปโดร กาสติลโล โดนโหวตถอดถอน เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เขาพยายามยุบสภา
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า รองประธานาธิบดี ดีนา โบลูอาร์เต สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศเปรูแล้วเมื่อวันพุธที่ 7 ธ.ค. 2565 หลังเกิดดราม่าทางการเมืองขึ้น เมื่ออดีตประธานาธิบดี เปโดร กาสติลโล ประกาศจะยุบสภา แต่เขากลับถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนออกจากตำแหน่งภายในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
ดราม่าการเมืองของเปรูเริ่มขึ้นในช่วงกลางวันของวันพุธ เมื่อประธานาธิบดีกาสติลโลออกแถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์ ประกาศภาวะฉุกเฉิน และจะยุบสภาคองเกรสที่ฝ่ายค้านครองเสียงข้างมากอยู่ เพื่อแทนที่ด้วยรัฐบาลฉุกเฉินพิเศษ อ้างว่าทำตามเสียงเรียกร้องของประชาชน และจะตั้งสภาใหม่ที่มีอำนาจร่างรัฐธรรมนูญใหม่ภายใน 9 เดือน
ประกาศนี้สร้างความตกตะลึงให้ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน มีรัฐมนตรีลาออกเพื่อประท้วงหลายคน ประธานศาลรัฐธรรมนูญแห่งเปรูกล่าวหานายกาสติลโลว่า พยายามก่อรัฐประหาร ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้เขาย้อนคืนการตัดสินใจของตัวเอง ขณะที่สำนักงานตำรวจและกองทัพเปรู ออกแถลงการณ์ร่วมว่าพวกเขาจะเคารพคำสั่งตามรัฐธรรมนูญ
การประกาศของนายกาสติลโลยังเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่รัฐสภาจะเริ่มกระบวนการถอดถอน หรือ อิมพีชเมนต์ เขาออกจากตำแหน่ง ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่เข้าขึ้นสู่อำนาจในเดือนกรกฎาคม 2564 อย่างไรก็ตาม สมาชิกสภานิติบัญญัติเพิกเฉยต่อประกาศของเขา และจัดการประชุมฉุกเฉินพร้อมลงมติถอดถอนนายกาสติลโลออกจากตำแหน่ง ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 101 ต่อ 6 งดออกเสียงอีก 10
ผลการลงมติทำให้นางโบลูอาร์เต วัย 60 ปี ได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดีแทน และจะดำรงตำแหน่งจนครบวาระในเดือน ก.ค. 2569
...
ด้านนายกาสติลโล หลังจากถูกอิมพีชเมนต์มีผู้พบเห็นเขาที่สถานีตำรวจ โดยยังไม่แน่ชัดว่าเขาถูกจับกุมหรือไม่ ขณะที่สำนักงานตำรวจเผยแพร่ภาพบนทวิตเตอร์ แสดงให้เห็นอดีตประธานาธิบดีนั่งคุยกับคนอื่นๆ ด้วยท่าทีสบายๆ ก่อนภาพจะถูกลบออกไป จากนั้นก็มีการแชร์คลิปนายกาสติลโลลงนามเอกสารกับอัยการ
ทั้งนี้ เปรูเผชิญกับภาวะความไม่แน่นอนทางการเมือง มีประธานาธิบดีถูกขับออกจากตำแหน่งไปแล้วหลายคนตลอดช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในปี 2563 พวกเขามีประธานาธิบดีถึง 3 คนภายในระยะเวลาเพียง 5 วัน ขณะที่นายกาสติลโลกำลังต่อสู้กับข้อหาคอร์รัปชัน ที่เขาอ้างว่าเป็นแผนเพื่อโค่นเขาลงจากตำแหน่ง