อินโดนีเซียผ่านกฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้สมรสกัน ซึ่งจะมีผลต่อทุกคนรวมถึงชาวต่างชาติด้วย แต่ยังไม่บังคับใช้เพื่อร่างข้อบังคับที่ชัดเจน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า รัฐสภาของประเทศอินโดนีเซียเห็นชอบกฎหมายอาชญากรรมใหม่ในวันอังคารที่ 6 ธ.ค. 2565 ห้ามมีใครก็ตามมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส มีโทษจำคุกสูงสุดไม่เกิน 1 ปี ท่ามกลางความกังวลว่า กฎหมายนี้จะทำให้นักท่องเที่ยวกลัวจนไม่กล้าเดินทางมา และอาจส่งผลเสียต่อการลงทุน

ที่ผ่านมา อินโดนีเซียมีกฎหมายห้ามมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ไม่ใช่คู่สมรสของตัวเองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยห้ามการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนที่ยังไม่แต่งงาน โดยกฎหมายใหม่จะส่งผลต่อทั้งชาวอินโดนีเซีย, ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่หรือเดินทางเข้ามาในอินโดนีเซีย และยังห้ามการอยู่ก่อนแต่งงานระหว่างคู่รักด้วยหากฝ่าฝืนจะต้องรับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน แต่กฎหมายฉบับนี้จะยังไม่มีผลเป็นเวลา 3 ปี เพื่อร่างแนวทางการบังคับใช้กฎ

อย่างไรก็ตาม กฎหมายดังกล่าวเผชิญเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่ายว่า ไม่เป็นผลดีต่อประเทศ เช่นนายเมาลานา ยูสราน รองประธานคณะกรรมการอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งอินโดนีเซีย กล่าวว่า กฎหมายใหม่นี้เป็นการถ่วงความก้าวหน้าอย่างสิ้นเชิง ในเวลาที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวกำลังเริ่มฝื้นตัวกลับมาจากการระบาดของโควิด-19

“เราเสียใจอย่างยิ่งที่รัฐบาลปิดตาตัวเอง เราแสดงความกังวลต่อกระทรวงการท่องเที่ยวถึงความอันตรายของกฎหมายนี้ไปแล้ว” นายยูสรานกล่าว โดยสมาคมการท่องเที่ยวเกาะบาหลีเคยคาดการณ์ไว้ว่า นักท่องเที่ยวจะกลับมาอยู่ระดับก่อนโควิดระบาดที่ 6 ล้านคนภายในปี 2568 ก่อนหน้านี้อินโดนีเซียยังพยายามดึงดูดกลุ่มคนที่ทำงานผ่านทางออนไลน์ หรือ digital nomad ให้มาเที่ยวในประเทศดด้วยการผ่านคลายกฎวีซ่าด้วย

...

ขณะที่นาย ซุง คิม เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำอินโดนีเซีย กล่าวที่งานประชุมนักลงทุนงานหนึ่งว่า กฎหมายใหม่จะส่งผลให้การลงทุนจากต่างชาติ, นักท่องเที่ยว และการเดินทางไปยองประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้ลดลง “การทำให้การตัดสินใจส่วนตัวของบุคคลเป็นอาชญากรรม จะมีส่วนสำคัญต่อรากฐานการตัดสินใจของบริษัทมากมาย ว่าจะลงทุนในอินโดนีเซียหรือไม่” นายคิมกล่าว

ด้านนายอัลเบิร์ต แอรีส โฆษกกระทรวงยุติธรรมอินโดนีเซีย กล่าวว่าการบังคับใช้กฎหมายใหม่จะถูกจำกัดโดยผู้ที่สามารถแจ้งความได้ เช่น พ่อแม่, คู่สมรส หรือลูกของผู้ต้องสงสัยกระทำผิด

“จุดประสงค์ของกฎหมายนี้คือการปกป้องสถาบันการแต่งงานและค่านิยมของอินโดนีเซีย ในเดียวกันก็ปกป้องความเป็นส่วนตัวของชุมชนและปฏิเสธสิทธิ์ของสังคมหรือบุคคลที่ 3 ไม่ให้แจ้งความเรื่องนี้หรือ ‘ทำตัวเป็นผู้พิพากษา’ โดยอ้างศีลธรรม” นายแอรีสกล่าว