อัยการสูงสุดของอิหร่านเผย หน่วยตำรวจศีลธรรม ซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายชาริอะห์อันเข้มงวด และเป็นชนวนทำให้เกิดการประท้วงใหญ่ช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กำลังจะโดนยุบ
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า นายโมฮัมหมัด จาฟาร์ มอนตาเซรี อัยการสูงสุดของประเทศอิหร่าน ไปร่วมการประชุมทางศาสนางานหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. 2565 โดยภายในงานเขาถูกผู้สื่อข่าวถามว่า หน่วยตำรวจศีลธรรม ซึ่งมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายชาริอะห์อันเข้มงวด จะถูกยุบหรือไม่
อัยการสูงสุดผู้นี้ตอบว่า “หน่วยตำรวจศีลธรรมไม่มีความเกี่ยวข้องกับระบบศาลยุติธรรม และมันกำลังถูกยุบจากที่ที่มันถูกก่อตั้งขึ้น” อนึ่ง หน่วยตำรวจศีลธรรมอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงมหาดไทย
คำพูดของนายมอนตาเซรียังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานอื่นๆ ในประเทศ แต่มันเกิดขึ้นหลังจากอิหร่านเผชิญการประท้วงอย่างหนักตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการเสียชีวิตของ น.ส. มาห์ซา อามินี ระหว่งที่เธอถูกตำรวจศีลธรรมควบคุมตัวข้อหาไม่สวมฮิญาบ โดยตำรวจศีลธรรมถูกกล่าวหาว่า ใช้กำลังทำร้ายร่างกาย
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา นายมอนตาเซรีกล่าวต่อรัฐสภาอิหร่านด้วยว่า ควรมีการทบทวนกฎหมายที่กำหนดให้ผู้หญิงต้องโพกผ้าคลุมศีรษะ รวมถึง ฮิญาบ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงกฎหมายซึ่งใช้มานานหลายสิบปีนี้อาจเป็นเรื่องยาก
ทั้งนี้ หากมีการยืนยันว่าหน่วยตำรวจศีลธรรมถูกยุบจริง จะนับเป็นการยอมถอยครั้งใหญ่ของฝ่ายรัฐบาลอิหร่าน แต่ไม่มีอะไรรับประกันว่า มันจะช่วยยุติการประท้วงของประชาชน ซึ่งลุกลามไปเป็นการแสดงความไม่พอใจในปัญหาอื่นๆ ทั้ง ความยากจน, การว่างงาน, ความไม่เท่าเทียม, ความอยุติธรรม และการคอร์รัปชัน
...
ผู้ประท้วงหญิงคนหนึ่งบอกกับ บีบีซี ว่า แค่รัฐบาลยุบหน่วยตำรวจศีลธรรมไม่ได้หมายความว่าการประท้วงจะยุติ และต่อให้รัฐบาลบอกอนุญาตให้การสวมฮิญาบเป็นทางเลือกส่วนบุคคลก็ไม่เพียงพอ ขณะที่หญิงอีกคนบอกว่า ผู้ประท้วงไม่สนเรื่องฮิญาบแล้ว พวกเธอต้องการการปฏิวัติ ฮิญาบเป็นเพียงจุดเริ่มต้น พวกเธอต้องการการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล