อียูมีมติเห็นชอบมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เพื่อสกัดช่องทางรายได้ของรัสเซียที่จะนำไปทำสงครามถล่มยูเครน
สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2565 สหภาพยุโรป หรือ อียู มีมติเห็นชอบในการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยมีเป้าหมายในการสกัดรายได้จากการขายน้ำมันดิบของรัสเซีย ตัดช่องทางการเงินที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน อาจนำไปใช้ในการทำสงครามในยูเครน และช่วยตรึงราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่ให้พุ่งสูงขึ้น
โดยมติเห็นชอบของอียูในครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากโปแลนด์ ซึ่งเคยมีท่าทีไม่ชัดเจนกับมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันดิบของรัสเซีย ได้เปลี่ยนท่าทีมาตกลงที่จะสนับสนุนมาตรการนี้ และปูทางสู่การรับรองมาตรการนี้อย่างเป็นทางการในระหว่างการประชุมของกลุ่ม 27 ชาติสมาชิกอียู ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ และทางกลุ่ม G-7 สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป มีกำหนดนำมาตรการจำกัดเพดานราคานี้มาใช้กับน้ำมันดิบที่รัสเซียส่งออกทางเรือขนส่งน้ำมัน ในวันที่ 5 ธันวาคม เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบรัสเซียที่จำหน่ายเมื่อวันศุกร์ที่ 2 ธ.ค. อยู่ที่ 67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลโปแลนด์คัดค้านมาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย เพราะต้องการให้อียูปรับราคาน้ำมันดิบรัสเซียให้ต่ำกว่าราคาตลาด และเรียกร้องให้กำหนดราคาให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อจำกัดรายได้ที่รัฐบาลมอสโกจะนำไปใช้ในการก่อสงครามกับยูเครน.