ทางการ นครกวางโจว เมืองเอกของมณฑลกวางตุ้ง และ นครฉงชิ่ง ประกาศผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 เพื่อลดความตึงเครียดของสถานการณ์ หลังเกิดการลุกฮือประท้วงครั้งใหญ่ซึ่งนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ปราบปรามการจลาจล รวมถึงการประท้วงของชุมชนชาวจีนในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่เรียกร้องและกดดันให้รัฐบาลจีนยุติการนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
รายงานระบุว่าทางการนครฉงชิ่งจะอนุญาตให้ประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงใกล้ชิดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในกรณีที่มีเงื่อนไขตามข้อบังคับ สามารถแยกกักตัวอยู่ที่บ้านพักได้ จากเดิมที่ต้องเข้าไปอยู่ศูนย์กักกันผู้ป่วยซึ่งหลายกรณีมีการติดเชื้อหลังอยู่ร่วมกับผู้มีความเสี่ยงคนอื่น อีกทั้งยังถูกเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ละเลย ไม่มีการดูแลหรือรักษาเมื่อเกิดอาการป่วย
หน่วยงานในพื้นที่อย่างน้อย 7 เขตของนครกวางโจว ระบุในแถลงการณ์ว่าได้ยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์เป็นการชั่วคราว โดยในเขตหนึ่งกล่าวว่า จะอนุญาตให้นักเรียนไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนได้ และจะอนุญาตให้ร้านอาหารและธุรกิจต่างๆ เช่นโรงภาพยนตร์เปิดให้บริการได้
ในการประกาศยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่บางส่วนของนครกวางโจว ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด ทางการไม่ได้ระบุถึงการประท้วง ขณะที่ในเขตที่เกิดการประท้วงรุนแรงเมื่อวันอังคาร ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเข้มงวด
ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงต่างประเทศและผู้ประท้วงบางส่วนเชื่อว่า การถึงอสัญกรรมของนายเจียง เจ๋อหมิน อดีตประธานาธิบดีจีน ผู้บริหารประเทศด้วยการปรับปรุงเศรษฐกิจให้ทันสมัย หลังเหตุการณ์ที่กองกำลังจีนใช้กำลังเข้าปราบปรามผู้เรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินในปี 1989 ขณะอายุ 96 ปี เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อาจเป็นปัจจัยให้เกิดการประท้วงครั้งใหม่
...
แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่สื่อทางการจีนรายงานว่า นางซุน ชุนหลาน รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งทำหน้าที่ดูแลมาตรการควบคุมโควิด กล่าวว่า ความสามารถของเชื้อไวรัสในการก่อให้เกิดโรคได้อ่อนแอลงแล้ว "ประเทศกำลังเผชิญกับสถานการณ์ใหม่และภารกิจใหม่ในการป้องกันและควบคุม ในขณะที่ความสามารถของเชื้อไวรัสโอมิครอนที่จะทําให้เกิดโรคเริ่มอ่อนแอลง ประชาชนฉีดวัคซีนมากขึ้น และมีประสบการณ์ในการรับมือกับเชื้อไวรัส"
วันเดียวกัน คณะกรรมการด้านสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุว่าในช่วง 24 ชั่วโมง พบผู้ป่วยใหม่อีก 37,828 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยัน 4,288 คน ถือเป็นตัวเลขผู้ติดเชื้อที่มีอาการสูงสุดในรอบกว่า 7 เดือน ขณะที่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน พบผู้ป่วยใหม่ 5,006 คน รวมผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ ถือเป็นจำนวนผู้ป่วยรายวันสูงสุดของกรุงปักกิ่ง.