ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ เดินทางถึงเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศผู้นำเศรษฐกิจขนาดใหญ่ "จี 20" ที่เกาะบาหลี ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะเป็นเวทีแรกอย่างเป็นทางการ ที่ไบเดนในฐานะผู้นำสหรัฐฯ จะมีโอกาสพบหน้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน

การพบหน้ากันระหว่างไบเดนและสี เกิดขึ้นหลังจากที่ผู้นำทั้งสองเคยหารือผ่านโทรศัพท์กันมาแล้ว 5 ครั้ง นับตั้งแต่ที่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2564 และเกิดขึ้นในขณะที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ ตกต่ำลงจนถึงขีดสุด หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนสหรัฐฯ เดินทางเยือนไต้หวัน เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

คาดว่าผู้นำสหรัฐฯ และจีนจะหารือกันในประเด็นที่เกี่ยวกับไต้หวัน ยูเครน และการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ซึ่งคาดว่าจะเป็นประเด็นสำคัญที่มีการหารือกันในการประชุมจี 20 ซึ่งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ไม่ได้เดินทางมาร่วมด้วย แต่ส่งนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศมาเป็นตัวแทน

เมื่อวันจันทร์ นายไบเดนกล่าวต่อบรรดาผู้นำในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในกัมพูชาว่า การสื่อสารระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะยังคงเกิดขึ้นเพื่อป้องกันความขัดแย้ง

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวระหว่างการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกในกัมพูชาว่า สหรัฐฯ จะยังคงแข่งขันกับจีนอย่างจริงจัง ขณะที่สร้างความมั่นใจว่าการแข่งขันจะไม่หันเหไปสู่ความขัดแย้ง โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน 

ความสัมพันธ์ระหว่างสองชาติมหาอำนาจตกต่ำลงในระดับต่ำสุดในช่วงหลายทศวรรษ จากปัญหาความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น ทั้งจากประเด็นฮ่องกง ไต้หวัน ไปจนถึงความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ 

นอกจากนั้น การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีน ซึ่งมองว่าเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน นำไปสู่การตอบโต้โดยการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงรอบเกาะไต้หวัน ทำให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันลุกเป็นไฟ ในขณะที่สหรัฐฯ ออกมาตรการควบคุมการส่งออกชิปเซมิคอนดักเตอร์ และอุปกรณ์ผลิตชิปไปยังจีน ยิ่งเป็นการเติมเชื้อไฟให้สถานการณ์ย่ำแย่ลง

...

ทำเนียบขาวระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้นำทั้งสองจะหารือกันถึงความพยายามในการรักษาและกระชับแนวทางการสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศ และการทำงานร่วมกันในประเด็นที่เป็นผลประโยชน์สอดคล้องกันของทั้งสองฝ่าย และเปิดเผยว่า การหารือแบบเผชิญหน้าระหว่างผู้นำทั้งสองจะจัดขึ้นที่โรงแรมมูเลีย โรงแรมหรูริมชายหาดนูซา ดูอา และแม้คาดว่าจะไม่มีการออกแถลงการณ์ร่วม หรือข้อตกลงใดๆ เพียงแต่อาจช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจถึงขอบเขตของกันและกันมากขึ้น แต่การหารือครั้งนี้อาจช่วยทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น.

ที่มา รอยเตอร์