หลายสิบเมืองในประเทศจีนเริ่มกลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนอีกครั้ง รวมถึงที่เมืองอู่ฮั่น หลังพบผู้ติดเชื้อทั่วประเทศเกิน 1,000 ราย 3 วันติดต่อกัน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานในวันศุกร์ที่ 28 ต.ค. 2565 ว่า จีนหวนล็อกดาวน์บางส่วนในหลายสิบเมืองทั่วประเทศ รวมถึงเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นสถานที่แรกที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตอกย้ำนโยบายของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งยังไม่มีท่าทีจะยกเลิกแนวทางทำให้โควิดเป็นศูนย์ แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างหนักก็ตาม

ตามการเปิดเผยของสำนักข่าว รอยเตอร์ส ประชาชนกว่า 800,000 คนในเขตหนึ่งของเมืองอู่ฮั่น ได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ในบ้านไปจนถึงวันที่ 30 ต.ค. หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยวันละ 25 รายในสัปดาห์นี้ และพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 200 รายในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

ที่เมืองเจิ้งโจว ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยพบผู้ติดเชื้อในกลุ่มลูกจ้างของบริษัท ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) หนึ่งในโรงงานผลิตไอโฟนรายใหญ่ ขณะที่เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางการเมืองกวางโจว สั่งระงับการเรียนการสอนแบบพบหน้า และห้ามทานอาหารภายในร้านอาหาร บางย่านของเมืองต้องอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมเข้มงวด

ความเคลื่อนไหวล่าสุดเกิดขึ้นหลังจาก จีนรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 1,000 รายต่อวันเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยจนถึงวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา มีเมืองในประเทศจีนอย่างน้อย 28 เมืองที่กลับมาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ โดยประชาชนได้รับผลกระทบแตกต่างกันขึ้นอยู่กับระดับความเสี่ยงของพื้นที่

ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ยังไม่มีท่าทีจะผ่อนคลายนโยบายทำให้โควิดเป็นศูนย์ ซึ่งจะใช้มาตรการเข้มงวด เช่น ล็อกดาวน์, จำกัดการเดินทาง หรือตรวจโรคทั้งเมืองทันทีแม้จะพบผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย โดยเขากล่าวระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาว่า นี่เป็นสงครามของประชาชนเพื่อหยุดการแพร่กระจายของไวรัสมรณะชนิดนี้

...

อย่างไรก็ตาม เริ่มมีกระแสต่อต้านมาตรการเข้มงวดในประเทศจีนมากขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ในทิเบต ก็เพิ่งมีการประท้วงใหญ่ในเมืองลาซา หลังจากเมืองแห่งนี้ถูกล็อกดาวน์มานานเกือบ 3 เดือน โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในเมืองแห่งนี้ 8 รายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ที่มา : bbc