• จอร์เจีย เมโลนี วัย 45 ปี ผู้นำพรรค "ภราดรแห่งอิตาลี" (Brothers of Italy) สาบานตนรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอิตาลี เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2565 กลายเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ และเป็นผู้นำพรรคการเมืองขวาสุดโต่งขึ้นเป็นรัฐบาลครั้งแรกนับตั้งแต่ยุคเผด็จการ
  • พรรคการเมืองฝ่ายขวาจัด "ภราดรแห่งอิตาลี" ของเมโลนี ชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาไปด้วยคะแนนเสียง 26% ทั้งที่การเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อนเคยได้ไปเพียง 4% เท่านั้น
  • เมโลนีและพันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลอย่างพรรคสันนิบาต (League party) และพรรค ฟอร์ซา อิตาเลีย (Forza Italia) เปิดเผยรายชื่อรัฐมนตรีทั้ง 24 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้หญิง 6 คน ท่ามกลางความตึงเครียด โดยคาดกันว่า รัฐบาลจะเผชิญการลงมติไม่ไว้วางใจในสัปดาห์หน้า

จอร์เจีย เมโลนี ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำพรรคภราดรแห่งอิตาลี พรรคการเมืองที่มีรากเหง้ามาจากแนวคิดแบบ "นีโอฟาสซิสต์" ซึ่งเป็นแนวคิดชาตินิยมสุดขั้วที่เริ่มมีมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เส้นทางสู่การเป็นนักการเมืองอย่างเต็มตัวของเธอ เริ่มขึ้นตั้งแต่สมัยรุ่นที่เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองพลังคนรุ่นใหม่สายชาตินิยมขวาจัด และมีพื้นเพมาจากย่านชนชั้นแรงงานในกรุงโรม

พ่อแม่ของเมโลนีแยกทางกัน และเธอโตมากับแอนนา ปาราโตเร แม่ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก เธอเข้าร่วมกับกลุ่มเยาวชนนีโอฟาสซิสต์ Italian Social Movement ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2489 โดยกลุ่มผู้สนับสนุนเบนิโต มุสโสลินี โดยเป็นนักเคลื่อนไหวของพรรคตั้งแต่อายุได้ 19 ปี เธอเคยให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของฝรั่งเศส ชื่นชมมุสโสลินี ว่าเป็นนักการเมืองที่ดี ทุกสิ่งที่เขาทำก็เพื่อประเทศชาติ และอิตาลีไม่เคยมีนักการเมืองแบบนี้เลยในรอบ 50 ปี และต่อมาเธอได้เป็นผู้นำขบวนการ National Alliance ของกลุ่มนักศึกษาในเครือข่ายของ Italian Social Movement

...

แม้เมโลนีจะเคยย้ำว่าพรรคที่เธอก่อตั้งขึ้นมาไม่มีความเกี่ยวข้องกับแนวคิดฟาสซิสต์ แต่ที่ผ่านมาหลายคนได้เห็นสมาชิกพรรคยังคงชูภาพถ่ายมุสโสลินี และป้ายตราสัญลักษณ์เก่าคบไฟสามสี ที่แทนถึงไฟบนหลุมศพมุสโลลินี แม้แต่นายอิกนาซิโอ ลา รุสซา ประธานวุฒิสภาคนใหม่ยังสะสมของที่ระลึกฟาสซิสต์ และน้องชายของเขายังทำท่าแสดงความเคารพแบบฟาสซิสต์ 

นอกจากการทำงานอย่างหนัก ความฉลาด และความสามารถมากมายแล้ว การขึ้นสู่ตำแหน่งของเธอยังเป็นเพราะจังหวะและเวลาที่ลงตัว เพราะก่อนหน้านี้พรรคภราดรแห่งอิตาลี ของเธอเป็นหนึ่งในไม่กี่พรรคการเมืองที่ไม่เข้าร่วมสนับสนุนรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี และเป็นเสียงสำคัญของฝ่ายค้าน 

นางเมโลนี ในวัย 31 ปีเคยดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเยาวชน ในรัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี ระหว่างปี 2551 จนถึง 2554 ก่อนที่จะมาร่วมก่อตั้งพรรคภราดรแห่งอิตาลีขึ้นเมื่อปี 2555 

ในวันประกาศชัยชนะเลือกตั้งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา เมโลนีประกาศว่า ชาวอิตาลีส่งสัญญาณชัดเจนว่าต้องการให้พรรคการเมืองที่มีแนวคิดขวาจัด นำโดยภราดรแห่งอิตาลี เข้ามาเป็นรัฐบาล และเมื่อรวมกับคะแนนเสียงจากพรรคพันธมิตรฝ่ายขวาอย่างพรรค "สันนิบาต" (League ) ของนายมัตเตโอ ซาลวินี และพรรค "ฟอร์ซา อิตาเลีย" (Forza Italia) ของนายแบร์ลุสโคนี ทำให้กลายเป็นฝ่ายรัฐบาลที่แข็งแกร่งขึ้นมา

ประโยคหนึ่งจากสุนทรพจน์ของเธอเมื่อปี 2562 ที่ว่า "ดิฉันจอร์เจีย ฉันคือผู้หญิง ฉันเป็นแม่ และฉันเป็นคริสเตียน" สะท้อนชัดเจนถึงแนวทางของพรรคว่า สนับสนุนครอบครัวตามธรรมชาติ ไม่เอาแอลจีบีที สนับสนุนเพศสภาพ ไม่เอาอุดมการณ์ทางเพศ ไม่เอาความรุนแรงจากกลุ่มมุสลิม และจะรักษาความมั่นคงชายแดน ไม่แบกรับผู้อพยพที่ทะลักเข้าประเทศ  

ก่อนหน้านี้เธอได้แต่งตั้งยูเจเนีย รอชเซลลา ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการเกิดของประชากรและครอบครัว เธอคนนี้คือผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านการทำแท้ง และเคยบอกว่าจะคว่ำข้อตกลงรับรองสิทธิคู่รักเพศเดียวกันในการมีบุตรธิดา ขณะที่เมโลนีบอกว่าเธอสัญญาจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องสิทธิการเข้าถึงการทำแท้ง 

...

อย่างไรก็ตาม ชาวอิตาลีหลายล้านคนที่ไม่ได้ลงคะแนนเลือกเมโลนี ต่างมองว่าแนวคิดแบบชาตินิยม ตลอดจนนโยบายปกป้องทางการค้า ต่อต้านการช่วยเหลือผู้อพยพ และค่านิยมเรื่องครอบครัวแบบอนุรักษนิยม ไม่ได้สะท้อนตัวตนของพวกเขา และมองว่าหากเมโลนีขึ้นมาเป็นผู้นำ ก็จะไม่ส่งผลดีนักต่อ สหภาพยุโรป หรืออียู โดยอิตาลีเป็นประเทศสมาชิกอียู ที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 และยังเป็นประเทศร่วมก่อตั้งอียู 

เมโลนีให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเธอจะเป็นของประชาชนทุกฝ่ายแม้จะมีแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกัน และรับรองว่าอิตาลีจะเป็นพันธมิตรทั้งกับนาโตและอียู และจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายการต่างประเทศ ซึ่งทำให้หลายคนอุ่นใจเพราะหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลของเธออย่างนายซาลวินี และแบร์ลุสโคนี ต่างมีความโน้มเอียงไปทางชมชอบประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย

ศาสตราจารย์โรแบร์โต ดิอาลีมองเต นักวิชาการด้านการเมืองอิตาลีมองว่า แม้เมโลนีจะมีรากเหง้ามาจากการเมืองแนวคิดขวาจัด แต่ที่ผ่านมาเราได้เห็นว่าเธอพยายามเอียงไปทางสายกลางเล็กน้อย โดยเฉพาะการที่ย้ำว่าจะไม่ปรับเปลี่ยนนโยบายของรัฐบาลดรากี ที่มีต่อยูเครน เพราะต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่าเธอจะเป็นคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

...

เขาบอกว่า แกนกลางของพรรคภราดรแห่งอิตาลียังเป็นขวาจัด แม้ว่าคนรุ่นใหม่ที่เลือกเธอจะไม่ได้มีแนวคิดแบบนั้นทั้งหมด ทำให้นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องเจอความท้าทายในการนำพาพรรคสร้างผลงานที่ต้องอาศัยการโน้มไปสู่สายกลางมากขึ้นและก้าวข้ามผ่านสิ่งต่างๆ ที่ไม่เคยทำมาก่อน. 

 

ผู้เขียน : เพ็ญโสภา สุคนธรักษ์

ข้อมูล : Euronews CNN