ตำรวจอินเดียสังหารเสือโคร่งเพศผู้ ซึ่งฆ่าคนมาแล้วกว่า 10 ศพ จนสร้างความหวาดผวาให้แก่ชาวบ้านใกล้เขตอนุรักษ์ในรัฐพิหาร มานานนับเดือนได้แล้ว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมปฏิบัติการพิเศษของตำรวจรัฐพิหาร สามารถสังหาร เสือโคร่งเบงกอล เพศผู้ ซึ่งก่อเหตุสังหารผู้คนมาแล้วถึง 10 ราย และฆ่าสัตว์เลี้ยงของชาวบ้านใกล้บริเวณเขตอนุรักษ์พันธุ์เสือ ‘วัลคีมี’ ไปเป็นจำนวนมากได้แล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (8 ต.ค. 2565) หลังจากตามล่ามานานร่วม 28 วัน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 30 ตร.กม.

เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติการตามล่าเจ้าเสือโคร่งตัวนี้ ซึ่งถูกเรียกว่า ‘T-104’ เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากมีรายงานว่า มันสังหารผู้หญิงคนหนึ่งกับลูกสาวของเธอ โดยตำรวจนำกำลังกว่า 200 นายกับช้าง 2 ตัว ปิดล้อมไร่อ้อยซึ่งเป็นที่กบดานของมัน ใกล้หมู่บ้าน สิตัลโตลา บาลูวา นานหลายชั่วโมง ก่อนจะจบชีวิตเจ้าเสือตัวนี้ด้วยกระสุนปืน 3 นัด ในเวลา 15.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น

นายกุมาร กุปตา หัวหน้าเจ้าหน้าที่อนุรักษ์สัตว์ป่าของรัฐพิหารบอกกับ ไทม์ส ออฟ อินเดีย ว่า เสือเพศผู้วัย 3 ปีตัวนี้ ซึ่งได้รับฉายาด้วยว่า ‘เสือกินคนแห่งแคว้นจัมปารัน’ (Champaran) ถูกจัดให้เป็นสิ่งมีชีวิตที่อันตรายต่อมนุษย์ และเจ้าหน้าที่ตัดสินใจสังหารมันหลังจากความพยายามยิงลูกดอกยาสลบ ประสบความล้มเหลว เสือตัวนี้ไม่ได้แสดงความหวาดกลัวต่อกลุ่มเจ้าหน้าที่ที่โอบล้อมมันอยู่เลย

นายกุปตายืนยันด้วยว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลใดๆ ที่ชี้ว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 10 รายหรือบางราย เสียชีวิตจากการโจมตีของเสือตัวอื่นเลย

ทั้งนี้ อินเดียเป็นบ้านของประชากรเสือป่ามากกว่า 70% ของที่มีทั้งหมดบนโลก มีเขตอนุรักษ์พันธุ์เสือหลายแห่ง แต่เขตเหล่านี้กลับไม่ถูกขยายในอัตราเดียวกับจำนวนเสือที่เพิ่มขึ้น ทำให้เสือต้องเข้ามาหากินในดินแดนที่มนุษย์ครอบครองเพื่อความอยู่รอด และมีบางครั้งที่มนุษย์ถูกทำร้ายจนตาย โดยสถิติของรัฐบาลอินเดียในปี 2562 ชี้ว่าในแต่ละปีจะมีคนถูกเสือสังหาร 40-50 ศพ.

...

ที่มา : times of india