อาร์เจนตินาส่งผู้เชี่ยวชาญเร่งตรวจสอบ เก็บตัวอย่างน้ำทะเล หาปริมาณสารพิษจากสาหร่าย หลังพบวาฬ "เซาเทิร์นไรท์" 13 ตัวทยอยตายเกยตื้นบริเวณชายหาดทางตอนใต้โดยไม่ทราบสาเหตุ
เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 65 เว็บไซต์ข่าว France24 รายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลของอาร์เจนตินา ได้เดินทางไปเก็บตัวอย่างน้ำ และหอยกาบคู่ที่อยู่ในบริเวณใกล้ชายหาดเมืองโกลโฟ นูโว ทางตอนใต้ของประเทศ เพื่อนำไปตรวจสอบหาปริมาณสารพิษ และสารอันตรายจากสาหร่ายตลอดจนปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี หลังจากพบซากวาฬ 13 ตัวตายเกยตื้นปริศนา บริเวณชายหาดแห่งนี้ ระหว่างวันที่ 24 กันยายน ถึงช่วงวันที่ 2 ตุลาคม โดยซากวาฬทุกตัวบ่งชี้ว่าเป็นวาฬที่มีสภาพร่างกายสมบูรณ์ ไม่มีร่องรอยบาดแผล หรือมีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด
รายงานข่าวระบุว่า วาฬเหล่านี้เป็นวาฬสายพันธุ์เซาเทิร์นไรท์ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคาดว่าเป็นการตายด้วยสาเหตุธรรมชาติ แต่ก็มีโอกาสน้อยที่วาฬโตเต็มวัยมีสุขภาพดีจำนวน 13 ตัว จะมาเสียชีวิตในเวลาใกล้เคียงกัน โดยก่อนหน้านี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยได้เข้าทำการตรวจสอบซากวาฬเพื่อหาสาเหตุการตาย คาดว่าผลจะออกมาในอีกประมาณ 2 สัปดาห์
อะกุสตินา โดนินี ผู้ประสานงานโครงการวาฬ แห่งสถาบันอนุรักษ์วาฬ (Whale Conservation Institute) เปิดเผยว่า ผู้เชี่ยวชาญได้เริ่มทำการชันสูตรซากศพวาฬและเริ่มตรวจสอบคุณภาพน้ำ ตลอดจนสัตว์ทะเลบริเวณใกล้เคียงเพื่อดูว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่วาฬจะได้รับพิษจากปรากฏการณ์น้ำเปลี่ยนสี (Red tide) ที่เกิดจากการเพิ่มขึ้นของสาหร่ายทะเล
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทุกปีมักจะมีนักท่องเที่ยวมายังชายหาดแห่งนี้ที่ตั้งอยู่บริเวณตอนใต้สุดของแหลมวาลดีส์ เพื่อชมวาฬเซาเทิร์นไรท์ที่จะมาชุมนุมกันจำนวนมากบริเวณใกล้ชายฝั่ง ในช่วงเดือนพฤษภาคมเพื่อออกลูกและเลี้ยงวาฬตัวน้อยไปจนถึงช่วงเดือนธันวาคม.
...