รัสเซียปลดรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมผู้ดูแลฝ่ายพลาธิการกองทัพแล้ว หลังจากเกิดปัญหาในการจัดส่งเสบียงกองทัพยูเครน ซึ่งถูกกล่าวโทษว่าเป็นต้นเหตุให้รัสเซียถูกเคียฟโต้กลับได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีคำสั่งปลดพลเอก ดีมิทรี บุลกาคอฟ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมผู้รับผิดชอบดูแลฝ่ายพลาธิการกองทัพมาหลายปี ออกจากตำแหน่งแล้ว เมื่อวันเสาร์ที่ 24 ก.ย. 2565 ที่ผ่านมา หลังความเพลี่ยงพล้ำในยูเครนเผยให้เห็นความติดขัดในการจัดส่งเสบียงกองทัพ

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยเรื่องดังกล่าวผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรม โดยระบุว่า นายพลวัย 67 ปีผู้นี้ถูกย้ายไปรับตำแหน่งอื่น ขณะที่พลโท มิคาอิล มิซินต์เซฟ ที่ชาวยูเครนจำนวนมากตั้งฉายาให้ว่า ‘มือเชือดแห่งมาริอูโปล’ จากการที่เขารับผิดชอบในปฏิบัติการปิดล้อมโจมตีเมืองมาริอูโปลจนพังราบ จะได้รับแต่งตั้งเข้ามาทำหน้าที่แทน

ทั้งนี้ พลเอกบุลกาคอฟดูแลฝ่ายพลาธิการของกองทัพรัสเซียมาตั้งแต่ปี 2551 แล้ว อย่างไรก็ตามช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมามีรายงานว่าเขาถูกลดความสำคัญลง และหลายคนในรัฐบาลกล่าวโทษเขาสำหรับความสับสนวุ่นวายในการจัดส่งเสบียงในยูเครน จนทำให้กองทัพรัสเซียมีเสบียงไม่เพียงพอและตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

ข่าวการปลดนายพลบุลกาคอฟเกิดขึ้นในขณะที่มีคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่บนโลกออนไลน์ แสดงให้เห็นทหารรัสเซียที่เพิ่งถูกเกณฑ์เข้ากองทัพถืออาวุธปืนไรเฟิล AK-47 ที่เก่าขึ้นสนิม

ในวันเดียวกัน ประธานาธิบดีปูติน ยังลงนามบังคับใช้กฎหมายใหม่ เพิ่มโทษสำหรับการก่ออาชญากรรมทางกองทัพ หลังก่อนหน้านี้เขาสั่งระดมพลสำรองจำนวน 300,000 นาย เพื่อไปเสริมกำลังในยูเครน จนทำให้ผู้ชายจำนวนมากพากันหนีออกนอกประเทศทั้งทางบกและทางอากาศ เนื่องจากกลัวจะถูกเกณฑ์ไปรบ

...

ภายใต้กฎหมายใหม่ ทหารคนใดก็ตามที่หนีทัพ, ยอมแพ้โดยไม่ได้รับอนุญาต, ปฏิเสธที่จะต่อสู้ หรือขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา จะมีโอกาสรับโทษสูงสุดคือจำคุก 10 ปี ส่วนทหารที่ก่อเหตุปล้นสะดมมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี

ปูตินยังลงนามกฎหมายอีกฉบับเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ชาวต่างชาติที่สมัครเข้ารับใช้กองทัพรัสเซีย สามารถขอสัญชาติรัสเซียได้ง่ายขึ้นด้วย โดยจะลดเกณฑ์คุณสมบัติสำหรับการขอสัญชาติลง จากเดิมที่ต้องอยู่อาศัยในรัสเซียนาน 5 ปีขึ้นไป เหลือเพียง 1 ปีเท่านั้น

นักวิเคราะห์มองว่ากฎหมายดังกล่าวมีเป้าหมายไปที่ผู้อพยพเข้าเมืองชาวเอเชียกลางจากประเทศอดีตสหภาพโซเวียตซึ่งมักจะถูกจ้างไปใช้แรงงานด้วยค่าแรงที่ต่ำมาก โดยเมื่อวันอังคาร นายเซอร์เกย์ ซอบยานิน ประกาศเปิดหน่วยรับสมัครทหารที่ค่ายอพยพซาคาโรโว ซึ่งเป็นทางผ่านสำคัญของผู้อพยพที่ต้องการเข้าสู่รัสเซีย

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลคีร์กีซสถานและอุซเบกิสถานออกคำเตือนประชาชนของตัวเองตั้งแต่ก่อนที่กฎหมายใหม่ของรัสเซียจะถูกบังคับใช้แล้วว่า อย่าเข้าร่วมการต่อสู้ในความขัดแย้งใดๆ.

ที่มา : bbc, cna