โลกต้องจารึกวันประวัติศาสตร์ งานพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติสูงสุดตั้งแต่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ที่มีพระประมุข ประมุขรัฐ ผู้นำและผู้แทนจากประเทศต่างๆทั่วโลก เข้าร่วมถวายความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนอัญเชิญพระบรมศพประดิษฐาน ณ อนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 วิหารเซนต์จอร์จ เคียงคู่พระสวามี ท่ามกลางความโศกเศร้าของประชาชนชาวอังกฤษและประเทศเครือจักรภพที่มาร่วมส่งเสด็จเนืองแน่น ด้านสำนักพระราชวังจัดให้ประชาชนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติในไทยร่วมถวายความอาลัย ณ บริเวณประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง จนถึงวันที่ 25 ก.ย.นี้ เป็นวันที่ประวัติศาสตร์โลกต้องจารึกกับงานพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธ ที่ 2 ที่มีพระประมุข ผู้นำ และผู้แทนจากประเทศทั่วโลก เข้าร่วมงาน ที่จัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติสูงสุด

รัฐพิธีที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์

ทั้งนี้ พระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ที่แบ่งเป็นสองส่วนคือ ส่วนที่เป็นรัฐพิธี ในช่วงเช้า และพระราชพิธีส่วนพระองค์ สำหรับพระบรมวงศานุวงศ์ในช่วงค่ำ โดยรัฐพิธีเริ่มต้นขึ้นเวลา 08.00 น. วันที่ 19 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา ประมาณ 14.00 น. ตามเวลาประเทศไทย เจ้าพนักงานประตูมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ให้คณะเจ้าหน้าที่พระราชพิธีและประชาชนผู้ได้รับเกียรติเชิญมาร่วมงานในฐานะผู้ทำคุณงามความดีในช่วงวิกฤติโควิด-19 เข้ามาในมหาวิหารฯ ส่วนคณะผู้เข้าร่วมพระราชพิธี ที่เป็นบุคคลสำคัญชุดแรกเดินทางด้วยรถบัสมาถึงในเวลาประมาณ 08.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประกอบด้วย พระบรมวงศานุวงศ์ พระประยูรญาติในสมเด็จพระราชินีคามิลลา และแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ รวมทั้งคณะรัฐมนตรีอังกฤษ เข้าประตูฝั่งทิศเหนือ ขณะที่สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 พร้อมด้วยเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าชายแฮร์รี ดยุก แห่งซัสเซกซ์ และปีเตอร์ ฟิลิป เสด็จฯ จากพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม ผ่านถนนไวท์ฮอลล์ แยกทำเนียบรัฐสภา ถึงพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ โดยตลอด 2 ข้างทาง เต็มไปด้วยพสกนิกรเฝ้ารับเสด็จ

...

ผู้นำโลกทยอยเข้ามหาวิหารฯ

จากนั้นในเวลา 09.40 น. หรือเวลา 15.40 น. ตามเวลาไทย สมาชิกราชวงศ์ต่างประเทศ และคณะตัวแทนรัฐบาลต่างประเทศ ทยอยเข้ามหาวิหารเวสต์ มินสเตอร์ทางประตูหน้า รวมถึงนายโจ ไบเดน ประธานา ธิบดีสหรัฐอเมริกา และนางจิลล์ ไบเดน สตรีหมายเลข หนึ่งสหรัฐฯ ต่อด้วยเวลา 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 16.20 น. ตามเวลาในไทย อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ 6 คน ประกอบด้วย นายบอริส จอห์นสัน นางเทเรซา เมย์ นายเดวิด คาเมรอน เซอร์จอห์น เมเจอร์ เซอร์โทนี แบลร์ และนายกอร์ดอน บราวน์ เดินทางมาถึง ตามด้วยนางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และ น.ส.จาซินดา อาเดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์

ทูตไทยเป็นผู้แทนร่วมงาน

วันเดียวกัน นายธานี แสงรัตน์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ประเทศ ไทยน้อมรำลึกถึงสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และร่วมแสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย ครั้งใหญ่นี้ โดยในส่วนของพระราชพิธีพระบรมศพฯ นายพิษณุ สุวรรณะชฎ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ซึ่งเป็นผู้แทนประเทศ ไทยในสหราชอาณาจักร ได้เข้าร่วม ตามที่ทางการสหราชอาณาจักรได้เปิดโอกาสให้เข้าร่วม

พสกนิกรรอส่งเสด็จฯเนืองแน่น

สำหรับการอัญเชิญหีบพระบรมศพ ไปยังมหา วิหารเวสต์มินสเตอร์ เริ่มต้นขึ้นด้วยกองทหารเกียรติยศ เริ่มเคลื่อนขบวนจากอาคารราชองครักษ์ฮอสการ์ดผ่านแยกทำเนียบรัฐสภา ไปยังพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ เพื่อประกอบพิธีอัญเชิญพระบรมศพไปยังมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ พร้อมบรรเลงเพลงเฉลิมพระเกียรติ ท่ามกลางพสกนิกรที่หลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อรอส่งเสด็จฯ จนเนืองแน่นริม 2 ฝั่งถนน ทั้งนี้ หีบพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มีการเคลื่อนย้ายออกจากแท่นพิธีในเวสต์มินสเตอร์ ฮอลล์ ในเวลา 10.44 น. มาประดิษฐานบนราชรถ ปืนใหญ่ของราชนาวีอังกฤษ โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดี ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระดำเนินตามขบวนฯ พร้อมด้วย เจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแแห่งเวสเซกซ์ เจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และปีเตอร์ ฟิลิป พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2

ประกอบพระราชพิธีศักดิ์สิทธิ์

เมื่อขบวนอัญเชิญหีบพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มาถึงมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ทหารรักษาพระองค์เคลื่อนหีบพระบรมศพเข้ายังประตูด้านหน้ามหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ และในเวลา 11.00 น. เริ่มพระราชพิธีพระบรมศพ คณะนักร้องประสานเสียงร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าถวายเป็นพระราชกุศล จากนั้นเคลื่อนพระบรมศพเข้าสู่ด้านในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ต่อมาสาธุคุณเดวิด ฮอยน์ ดีนแห่งเวสต์มินสเตอร์ นำสวดภาวนาและกล่าวถวายอาลัยแด่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จากนั้นคณะนักร้องประสานเสียงแห่งมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์และโบสถ์เซนต์เจมส์ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า ตามด้วยแพทริเซีย บารอนเนสแห่งสกอตแลนด์และแอสธอล เลขาธิการเครือจักรภพแห่งประชาชาติ นำอ่านพระคัมภีร์บทที่ 1 เฉลิมพระเกียรติและการเสียสละอันยิ่งใหญ่ตลอดรัชสมัย นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ นำอ่านพระคัมภีร์บทที่ 2 ขอให้พระผู้เป็นเจ้าทรงปลอบประโลมจิตวิญญาณสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และขอให้พระองค์สถิตบนสรวงสวรรค์ ขณะที่สมเด็จพระสังฆราชจัสติน เวลบี อาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอเบอร์รี นำเทศนาและถวายอาลัย

...

สงบนิ่งไว้อาลัยทั่วสหราชอาณาจักร

เมื่อเสร็จสิ้นพิธีทางศาสนา เจ้าหน้าที่พระราชพิธีบรรเลงเพลงเฉลิมพระเกียรติ ภายหลังเพลงจบลง ทุกคนยืนสงบนิ่งเพื่อถวายอาลัยพร้อมกันทั่วสหราชอาณาจักร โดยบรรยากาศทั่วประเทศเป็นไปอย่างสงบและโศกเศร้า ประชาชนหลายคนหลั่งน้ำตาด้วยความอาลัย กระทั่งเวลา 12.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทหารกองเกียรติยศบรรเลงเพลงสรรเสริญและเพลงชาติ “ก็อด เซฟ เดอะ คิง” โดยมีรายงานว่าระหว่างนั้น สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ ทรงมีน้ำพระเนตรคลออย่างเห็นได้ชัด จากนั้นกองทหารปี่สกอตบรรเลงเพลงเฉลิมพระเกียรติ “Sleep, dearie, sleep” ตามโบราณราชประเพณี

เคลื่อนพระบรมศพด้วยราชรถปืนใหญ่ฯ

หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีพระบรมศพ ในมหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ต่อด้วยการอัญเชิญหีบพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 มาประดิษฐานบนราชรถปืนใหญ่ราชนาวี ที่ใช้ทหารเรือในชุดเครื่องแบบสีดำ 142 นาย ทำหน้าที่ลากจูงตามโบราณราชประเพณีตั้งแต่สมัยสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรีย โดยราชรถปืนใหญ่ราชนาวีคันนี้ มีการนำมาใช้ครั้งสุดท้ายในงานพิธีพระศพ จอมพลเรือ ลูอีส์ เอิร์ลแห่งเมาท์แบตเทน พระมาตุลาในเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ เมื่อปี 2522 จากนั้นขบวนอัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่นำโดย คณะกองดุริยางค์ทหาร กองทหารปี่และกลองแห่งสกอตแลนด์ พร้อมด้วยกองทหารม้า ทหารเหล่าทัพต่างๆ รวมถึงจากเครือจักรภพ ร่วมในขบวนอิสริยยศ เคลื่อนมุ่งหน้าไปยังประตูเวลลิงตัน อาร์ค โดยการนี้ สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ทรงพระดำเนินตามในขบวนอิสริยยศ พร้อมด้วยเจ้าหญิงแอนน์ เจ้าชายแอนดรูว์ ดยุกแห่งยอร์ก เจ้าชายเอ็ดเวิร์ด เอิร์ลแแห่งเวสเซกซ์ และพระราชนัดดาของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ฝ่ายชาย ซึ่งรวมถึงเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกซ์ และพระราชวงศ์ชั้นสูง โดยขบวนอัญเชิญหีบพระบรมศพ เคลื่อนผ่านสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของอังกฤษ และมีการลั่นระฆังบิ๊กเบนทุก 1 นาที ไปตลอดเส้นทาง และใช้เวลาประมาณ 45 นาที ถึงประตูเวลลิงตัน อาร์ค

...

ข้าราชบริพารร่วมส่งเสด็จ

สำนักข่าวต่างประเทศที่พร้อมใจรายงานบรรยากาศงานพระราชพิธีพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 รายงานว่า ก่อนที่ขบวนอัญเชิญหีบพระบรมศพจะมาถึงประตูเวลลิงตันอาร์ค ได้เคลื่อนผ่านพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม ซึ่งเมื่อขบวนพระบรมศพเคลื่อนผ่านอนุสาวรีย์พระราชินีวิคตอเรีย ที่ตั้งอยู่หน้าพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม เจ้าหน้าที่ของพระราชวังได้ออกมารวมตัวกันที่ด้านหน้าอาคาร พร้อมถวายความเคารพเป็นการส่งเสด็จ เป็นครั้งสุดท้าย จากนั้นเมื่อขบวนอัญเชิญพระบรมศพมาถึงประตูเวลลิงตันอาร์ค เจ้าพนักงานพระราชพิธีได้อัญเชิญหีบพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซา เบธที่ 2 ประดิษฐานบนราชรถ ก่อนจะเคลื่อนขบวนไปยังวิหารเซนต์จอร์จ ภายในพระราชวังวินด์เซอร์ กรุงลอนดอน ระยะทางประมาณ 35 กม. เพื่อประกอบพระราชพิธีที่คาดว่าจะมีเฉพาะสมาชิกราชวงศ์ บุคคลสำคัญของอังกฤษ และข้าราชบริพาร และทหารรักษาพระองค์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เข้าร่วมรวมประมาณ 1,000 คน

ฝังพระบรมศพเคียงข้างพระสวามี

จากนั้นในช่วงค่ำเป็นพระราชพิธีที่มีเฉพาะพระบรมวงศานุวงศ์ นำโดยสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 อัญเชิญพระบรมศพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ลงในโถงอนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 ภายในวิหารเซนต์จอร์จ โดยมีสาธุคุณเดวิด คอนเนอร์ ดีนแห่งวินด์เซอร์ เป็นผู้ประกอบพิธีทางศาสนา จากนั้นเป็นการประกอบพิธีประดิษฐานพระบรมศพ ลงเคียงข้างพระศพเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินเบอระ พระสวามี ในโถงอนุสรณ์สถานพระเจ้าจอร์จที่ 6 วิหารเซนต์จอร์จ เป็นอันเสร็จสิ้นพระราชพิธี

...

ประดับด้วยดอกไม้แห่งความทรงจำ

ทั้งนี้ สื่อในอังกฤษรายงานว่าสำนักพระราชวังบั๊กกิ้งแฮมออกแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ทรงมีรับสั่งให้จัดพวงมาลาบนหีบพระบรมศพ โดยประดับด้วยดอกเจอราเนียม ดอกกุหลาบ ดอกไฮเดรนเยีย ดอกซีดัมและดอกสกาบิโอซา ซึ่งดอกไม้เป็นสีชมพู สีทองและสีม่วงแดง ทั้งหมดมาจากสวนในพระราชวังบั๊กกิ้งแฮม พระตำหนักแคลร์เรนซ์เฮาส์ และพระตำหนักไฮโกรฟเฮาส์ แซมด้วยใบโอ๊กอังกฤษ สัญลักษณ์แห่งความรักอันมั่นคง และใบเมอร์เทิลเก่าแก่พุ่มเดียวกับที่ใช้ประดับในช่อดอกไม้ในงานพิธีพระอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 2490 เป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำอันเปี่ยมสุข และความรักอันมั่นคง พร้อมด้วยพระราชบันทึกของสมเด็จพระราชาธิบดีชาร์ลส์ที่ 3 ระบุว่า “ด้วยรักและอุทิศความทรงจำ, ชาร์ลส์ อาร์.”

สาวร่ำไห้เคารพพระบรมศพคนสุดท้าย

นอกจากนี้ สื่อท้องถิ่นยังรายงานถึงบรรยากาศพสกนิกรกลุ่มสุดท้ายที่ได้เข้าถวายความเคารพพระบรมศพ ที่มีทั้งผู้สูงอายุและเด็ก หลายคนถึงกับหลั่งน้ำตาร่ำไห้ขณะเดินออกจากโถงเวสต์มินสเตอร์ หลังถวายความเคารพพระบรมศพและหันมามองด้วยความอาลัย โดยคนสุดท้ายคือ คริสตินา ฮีเรย์ ทำงานในกองทัพอากาศ เล่าว่ามาต่อคิวตั้งแต่เวลา 17.00 น.ของวันที่ 18 ก.ย. พร้อมกล่าวขณะน้ำตาคลอว่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้าถวายความเคารพ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งตนปฏิญาณว่าจะปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติในนามแห่งพระองค์ ส่วนคนรองสุดท้ายคือ ซิมา มันซูรี หญิงเชื้อสายอิหร่าน ที่อาศัยในกรุงลอนดอน เล่าว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จฯเยือนอิหร่านเมื่อกว่า 50 ปีก่อน ตอนนั้นญาติตนเป็นเด็กหญิงถือดอกไม้ต้อนรับรับเสด็จฯ ซึ่งวันนั้นอากาศร้อนมาก สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงเป็นห่วง และตรัสให้พาญาติตนหลบแดดข้างในและรับดอกไม้ นั่นเป็นครั้งแรกที่ตนรักพระองค์ และรักเรื่อยมา พระองค์ยังทรงยืนหยัดเพื่อเสรีภาพ เพื่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิสตรี

ราว 4 แสนคนได้เข้าเคารพพระบรมศพ

ทั้งนี้ มีรายงานว่าประชาชนที่ได้เข้าถวายความเคารพพระบรมศพ มีประมาณ 400,000 คน หลังจากคนสุดท้ายออกจากโถงเวสต์มินสเตอร์ฮอลล์แล้ว เจ้าหน้าที่พระราชพิธีเข้าถวายความเคารพพระบรมศพและซับน้ำตา ก่อนจะปิดประตูพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ขณะที่ด้านนอกพระราชวังวินด์เซอร์ ประชาชนรายหนึ่งกล่าวทั้งน้ำตากับผู้สื่อข่าวบีบีซีว่า สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทำให้นึกถึงย่าและยาย ตอนทราบข่าวสวรรคตตนรู้สึกหัวใจสลายและรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะนึกถึงช่วงเวลาที่ไม่มีพระองค์อีกต่อไปแล้ว แม้ว่าจะไม่เคยพบเจอพระองค์มาก่อน แต่ก็เติบโตมาในรัชสมัยและรู้สึกใกล้ชิดกับพระองค์มาตลอดชีวิตจึงตัดสินใจมาเฝ้ารอเพื่อถวายความเคารพเป็นครั้งสุดท้าย

ในหลวง-ราชินี ร่วมถวายความอาลัย

สำหรับบรรยากาศการร่วมถวายความอาลัย สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราช อาณาจักร ในไทยวันเดียวกัน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บริเวณประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้หน่วยราชการในพระองค์ ทำพิธีถวายความอาลัยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในการพระราชพิธีพระบรมศพของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พลอากาศตรี สุพิชัย สุนทรบุระ รองเลขาธิการพระราชวัง เป็นประธานเชิญแจกันดอกไม้ของพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และคุณหญิงจันทนี ธนรักษ์ ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญแจกันดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และท่านผู้หญิงบุตรี วีระไวทยะ รองอธิบดีกรมกิจการในพระบรมวงศานุวงศ์ เชิญแจกันดอกไม้ของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรม สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปในพิธีถวายความอาลัยหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมด้วยข้าราชบริพารหน่วยราชการในพระองค์ ร่วมวางดอกไม้ถวายความอาลัย

เปิดให้ถวายความอาลัยถึง 25 ก.ย.

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังจะประดิษฐานพระบรม ฉายาลักษณ์สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ที่บริเวณประตูมณีนพรัตน์ พระบรมมหาราชวัง ระหว่างวันที่ 19-25 กันยายน 2565 เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ร่วมถวายความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร ในฐานะที่ประเทศไทยและสหราชอาณาจักรมีความสัมพันธ์อันแนบแน่นมาช้านาน โดยมีหน่วยงานต่างๆ ได้นำแจกันดอกไม้และดอกไม้มาถวายความอาลัยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสห ราชอาณาจักร อาทิ ประธานวุฒิสภา พร้อมข้าราชการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และโรงมหรสพหลวงศาลาเฉลิมกรุง พร้อมทั้งชาวต่างประเทศในไทยต่างทยอยนำดอกไม้มาวางเพื่อเป็นการถวายความอาลัยด้วย