ลิซ ทรัสส์ ได้รับการแต่งตั้งจากควีนเอลิซาเบธที่ 2 เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการแล้ว ในวันอังคาร เตรียมเผชิญวิกฤติมากมายทั้งสงคราม เงินเฟ้อ และเศรษฐกิจ
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า สมเด็จพระราชินี เอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ทรงแต่งตั้ง น.ส.ลิซ ทรัสส์ เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่แห่งสหราชอาณาจักรแล้วที่พระราชวัง บัลโมรัล ในสกอตแลนด์ ในวันอังคารที่ 6 ก.ย. 2565 หลังเมื่อวันจันทร์ รัฐมนตรีต่างประเทศวัย 47 ปีผู้นี้ เอาชนะนายริชี ซูนัค อดีต รมว.คลัง ในการเลือกตั้งภายในพรรคอนุรักษนิยม
น.ส.ทรัสส์ เป็นนายกรัฐมนตรีจากพรรคอนุรักษนิยมคนที่ 4 ในรอบ 6 ปี แทนที่นายบอริส จอห์นสัน ผู้ถูกบีบให้ลาออกท่ามกลางเรื่องอื้อฉาวมากมาย หลังจากอยู่ในอำนาจมา 3 ปี โดยหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรีคนใหม่จะต้องเผชิญกับปัญหามากมายทั้งอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสู่เลข 2 หลัก, ค่าพลังงานสูง และภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันยาวนาน
...
น.ส.ทรัสส์ มีแผนกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษี และอาจจัดงบประมาณ 1 แสนล้านปอนด์ เพื่อตรึงราคาพลังงานซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างมากต่อตลาดการเงิน และทำให้นักลงทุนจำนวนมากทิ้งเงินปอนด์และพันธบัตรรัฐบาลในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ด้านนายจอห์นสัน ซึ่งพยายามยื้ออยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหลังจากประกาศจะลาออกเมื่อเดือนกรกฎาคม แถลงการณ์อำลาตำแหน่งต่อผู้สื่อข่าวและนักการเมืองที่มารวมตัวกัน ณ บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิง เมื่อช่วงเช้าวันอังคาร โดยระบุว่า ถึงเวลาที่ประเทศจะรวมเป็นหนึ่งแล้ว
“ถึงเวลาแล้วทุกคน สิ่งที่ผมบอกกับเพื่อร่วมพรรคอนุรักษนิยมคือ ถึงเวลาแล้วที่การเมืองจะจบลง ทุกคน ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะรวมตัวกันหนุนหลัง ลิซ ทรัสส์ และทีมงานกับโครงการของเธอ” นอกจากนั้น นายจอห์นสันยังกล่าวถึงผลงานของเขาในฐานะนายกรัฐฒนตรี ทั้งเรื่องโครงการวัคซีนโควิด-19, การสนับสนุนยูเครน และการทำให้เบร็กซิตเกิดขึ้นด้วย
หลังจากกล่าวเสร็จ นายจอห์นสันก็ออกเดินทางจากกรุงลอนดอนไปยังพระราชวัง บัลโมรัล เพื่อยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งกับควีนเอลิซาเบธที่ 2 ก่อนที่ น.ส.ทรัสส์จะเดินทางตามมาเพื่อขอสืบทอดตำแหน่งของเขา