องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา เผยกำหนดการปล่อยจรวด "สเปซ ลอนช์ ซิสเท็ม" หรือ เอสแอลเอส ขึ้นสู่อวกาศอีกครั้งในวันเสาร์นี้ หลังไม่สามารถปล่อยได้ตามกำหนดเดิมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
นาซาต้องประกาศระงับกิจกรรมนับถอยหลังและยกเลิกการปล่อยจรวด หลังพบปัญหาเชื้อเพลิงไฮโดรเจนรั่วจนทำให้ไม่สามารถปล่อยจรวดเอสแอลเอสที่จะส่งแคปซูล "โอไรออน" ซึ่งไม่มีนักบินประจำการ ไปโคจรรอบดวงจันทร์
นาซา ระบุว่า กำหนดการปล่อยจรวด ซึ่งมีความสูง 98 เมตร จะมีขึ้นที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี บนแหลมคะแนเวอรัล ในรัฐฟลอริดา ในเวลา 14.17 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าจะสามารถแก้ปัญหาเกี่ยวกับระบบเครื่องยนต์สำเร็จก่อนถึงกำหนดปล่อยจรวดครั้งใหม่
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มความสำเร็จในการปล่อยจรวดในวันเสาร์นี้ อาจจะต้องเผชิญอุปสรรค หลังรายงานสภาพอากาศที่คาดการณ์ว่ามีโอกาสเพียง 40% ที่สภาพอากาศในวันเสาร์จะเอื้ออำนวย ขณะที่หน่วยงานด้านอวกาศของสหรัฐฯ ยอมรับว่าปัญหาทางเทคนิคที่สำคัญบางอย่างยังคงต้องได้รับการแก้ไข
นายชาร์ลี แบล็กเวลล์-ทอมป์สัน ผู้อำนวยฝ่ายปฏิบัติการโครงการอาร์เทมิส ของนาซา กล่าวว่า กระบวนการระบายความร้อนของเครื่องยนต์จะเริ่มขึ้นประมาณ 30 นาทีก่อนหน้าการนับถอยหลังการปล่อยจรวด แต่คำอธิบายฉบับเต็มสำหรับข้อผิดพลาดเกี่ยวกับระบบเซนเซอร์นั้น จำเป็นต้องผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเพิ่มเติมโดยวิศวกร
สำนักข่าวรอยเตอร์สระบุว่า จรวดเอสแอลเอสและแคปซูลโอไรออนเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "อาร์เทมิส วัน" (Artemis I) ซึ่งเป็นโครงการสำรวจดวงจันทร์ครั้งใหม่ของนาซา นับตั้งแต่โครงการอะพอลโลในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1960 และ 1970 ที่สหรัฐฯ ได้ทุ่มงบประมาณมหาศาลกว่า 93,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.4 ล้านล้านบาท เพื่อพามนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งในรอบเกือบ 6 ทศวรรษ
...
โดยตั้งเป้าส่งแคปซูลโอไรออน ที่มีน้ำหนัก 2.6 ล้านกิโลกรัมไปสำรวจดวงจันทร์จากศูนย์อวกาศเคนเนดีบนแหลมคะแนเวอรัลในรัฐฟลอริดาของสหรัฐ แคปซูลลำนี้จะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจทดสอบโคจรรอบดวงจันทร์เป็นเวลา 6 สัปดาห์ก่อนเดินทางกลับโลก หากการทดสอบในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจมากขึ้นในการส่งนักบินอวกาศไปสำรวจดวงจันทร์ในครั้งต่อไป.
ตามแผนแล้ว โครงการอาร์เทมิสนี้ถูกแบ่งออกเป็น 11 ภารกิจย่อย ภายใต้ชื่ออาร์เทมิส 1 ถึง 11 อย่างไรก็ดี ตอนนี้ทางการสหรัฐฯ ได้รับรองโครงการไปเพียง 6 ภารกิจเท่ากัน ส่วนอีก 5 ภารกิจที่เหลือ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา.