เกาหลีใต้ยังคงครองแชมป์ประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลก โดยตัวเลขสถิติลดลงเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ส่อกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาว

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เกาหลีใต้ครองสถิติเป็นประเทศที่มีอัตราการเกิดต่ำที่สุดในโลกอีกครั้งในปี 2565 โดยตัวเลขล่าสุดที่รัฐบาลเปิดเผยออกมาเมื่อวันพุธที่ 24 ส.ค. 2565 อยู่ที่ 0.81 หรือมีเด็กเกิดไม่ถึง 1 คนต่อผู้หญิง 1 คน ลดลงจากปีก่อน 0.3 จุด และลดลงเป็นปีที่ 6 ติดต่อกันแล้ว

ประเทศต่างๆ ต้องการคู่รัก 1 คู่มีลูกอย่างน้อย 2 คน หรืออัตราการเกิด 2.1 เพื่อคงจำนวนประชากรให้อยู่ในระดับเดิม ไม่รวมผู้อพยพ แต่เกาหลีใต้มีอัตราการเกิดลดลงเรื่อยๆ จนต่ำกว่า 1.0 ในปี 2561 ในขณะที่ประเทศอุตสาหกรรมหลักส่วนใหญ่ในโลก มีอัตราการเกิดที่ 1.6 คนต่อผู้หญิง 1 คน

องค์กรเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ระบุว่า อัตราการเกิดลดลงอย่างชัดเจนในช่วง 6 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเฉพาะที่เกาหลีใต้ซึ่งขนาดครอบครัวเล็กลงเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่ชั่วอายุคน จากเดิมที่ในช่วงเริ่มต้น ค.ศ. 1970 ผู้หญิงเกาหลีใต้มีลูกเฉลี่ยคนละถึง 4 คน

การที่จำนวนประชากรลดลงจะทำให้ประเทศใดๆ อยู่ในภาวะตึงเครียด เพราะนอกจากจะเพิ่มแรงกดดันต่อการใช้จ่ายสาธารณะแล้ว ยังทำให้ประชากรอายุน้อยลดลง ซึ่งจะนำไปสู่ปัญหาขาดแคลนแรงงานและกระทบต่อเศรษฐกิจ

นักวิเคราะห์ระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สาเหตุหลักที่ส่งผลต่อการตัดสินใจมีลูกของประชาชนคือ ภาวะเศรษฐกิจและอาชีพการงาน ขณะที่ในปี 2564 ค่าครองชีพกับราคาบ้านที่สูงขึ้น รวมทั้งผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 คือปัจจัยหลักที่ทำให้คนไม่อยากมีลูก