ภาวะแห้งแล้งรุนแรงในรัฐเทกซัสของสหรัฐฯ ทำให้แม่น้ำสายหนึ่งที่ไหลผ่านอุทยานหุบเขาไดโนเสาร์แห้งเหือด จนเห็นรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่คาดว่ามีชีวิตเมื่อ 113 ล้านปีก่อน
สเตฟานี ซาลินาส การ์เซีย โฆษกอุทยานฯ เผยว่า รอยเท้าส่วนใหญ่ที่มีการค้นพบล่าสุดในหลายพื้นที่ของแม่น้ำ เป็นของ "แอโครแคนโทซอรัส" (Acrocanthosaurus) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินเนื้อ หากโตเต็มวัยจะหนักเกือบ 7 ตัน และสูง 4.5 เมตร นอกจากนั้นยังพบรอยเท้าของไดโนเสาร์ "ซอโรโพไซดอน" (Sauroposeidon) ซึ่งเป็นไดโนเสาร์กินพืช หากโตเต็มวัยจะหนัก 44 ตัน สูง 18 เมตร
ภาวะแห้งแล้งรุนแรงช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา ทำให้แม่น้ำสายนี้เหือดแห้งอย่างสิ้นเชิงเกือบทั้งลำน้ำ เปิดทางให้เห็นรอยเท้าสิ่งมีชีวิตสมัยโบราณที่ยังไม่เคยพบมาก่อนในอุทยานดังกล่าว การ์เซียกล่าวว่า ในสภาพอากาศที่ปกติ รอยเท้าไดโนเสาร์จะอยู่ที่บริเวณก้นแม่น้ำและถูกทับถมด้วยดินโคลนและตะกอน ทำให้ยากแก่การมองเห็น และหลังจากนี้คาดว่ารอยเท้านี้จะจมอยู่ใต้แม่น้ำอีกครั้งหากเกิดฝนตก ซึ่งนับว่าเป็นข้อดี เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวจะช่วยในการปกป้องรอยเท้าจากการถูกกัดกร่อนตามธรรมชาติ
อุทยานแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ดอนทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองดัลลัส ในอดีตเคยเป็นมหาสมุทรโบราณ และมีรอยเท้าของไดโนเสาร์ที่เกิดจากการเหยียบบนดินโคลน โดยภาพถ่ายที่เผยแพร่ในเฟซบุ๊กเห็นรอยเท้าสัตว์ที่มีนิ้ว 3 นิ้ว เรียงเป็นแนวยาวไปจนถึงท้องน้ำที่เหือดแห้ง
จากข้อมูลของรายงานการสำรวจภัยแล้งของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พื้นที่มากกว่า 60% ของเทกซัส เผชิญกับปัญหาภัยแล้งรุนแรง นอกจากนั้น เมื่อเร็วๆ นี้ เทกซัสยังเผชิญกับคลื่นความร้อนที่ส่งผลให้อุณหภูมิพุ่งสูงเกือบ 40 องศาเซลเซียส
การพบรอยเท้าไดโนเสาร์ครั้งนี้ ถือเป็นการค้นพบล่าสุดที่เกี่ยวข้องกับปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลให้แม่น้ำและทะเลสาบหลายแห่งทั่วโลกเผชิญความแห้งเหือด โดยเมื่อเดือนที่แล้วมีการค้นพบโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมากในทะเลสาบมี้ด ในรัฐยูทาห์ หลังจากปริมาณน้ำในทะเลสาบลดลงกว่า 27% จากความจุปกติ.
...
ที่มา: ซีเอ็นเอ็น