ธนาคารกลางสหราชอาณาจักร ขึ้นดอกเบี้ยมาตรฐานรวดเดียวมากที่สุดในรอบ 27 ปี ท่ามกลางสถานการณ์เงินเฟ้อ และคาดด้วยว่า เศรษฐกิจ UK จะถดถอยนานนับปี
สำนักข่าว ซีเอ็นบีซี รายงานว่า แบงก์ ออฟ อิงแลนด์ หรือ ธนาคารกลางของสหราชอาณาจักร (UK) ประกาศเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอีก 0.50 % ในวันพฤหัสบดีที่ 4 ส.ค. 2565 ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นในคราวเดียวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2538 หรือ 27 ปีก่อน รวมทั้งคาดการณ์ว่า UK จะเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยยาวนานที่สุดนับตั้งแต่วิกฤติการเงินโลก
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของ แบงก์ ออฟ อิงแลนด์ เกิดขึ้นหลังจากสมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) มีมติสนับสนุน 8 ต่อ 1 เสียง โดยอ้างเหตุผลเรื่องการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อที่กำลังกดดัน UK และพื้นที่อื่นๆ ของยุโรป ทำให้อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานของสหราชอาณาจักรตอนนี้อยู่ที่ 1.75% แล้ว
MPC ระบุอีกว่า ราคาก๊าซหุงต้มใน UK เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม จากการที่รัสเซียจำกัดการส่งก๊าซธรรมชาติเข้าสู่ยุโรปและความเสี่ยงที่การจำกัดจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อรวมกับราคาพลังงานค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น จะยิ่งทำให้รายได้แท้จริงของครัวเรือน UK ลดลง และทำให้เงินเฟ้อในดัชนีราคาผู้บริโภคเพิ่มขึ้นอีกในระยะใกล้
หน่วยงาน Ofgem ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลด้านพลังงานในสหราชอาณาจักร เพิ่มเพดานราคาพลังงานขึ้นไปถึง 54% แล้วนับตั้งแต่เดือนเมษายน เมื่อให้สอดคล้องกับราคาพลังงานที่สูงขึ้นทั่วโลก แต่พวกเขาคาดว่าจะเพิ่มเพดานขึ้นอีกในเดือนตุลาคม และประเมินว่า ค่าพลังงานครัวเรือนของประชาชนจะทะลุ 3,600 ปอนด์ต่อปี (ราว 157,000 บาท)
...
แบงก์ ออฟ อิงแลนด์ คาดการณ์ด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อในประเทศจะพุ่งไปอยู่ที่ 13.3% ในเดือนตุลาคม และจะอยู่ในระดับสูงเกือบตลอดปี 2566 ก่อนจะลดลงไปอยู่ที่ 2% ตามเป้าหมายในปี 2568
MPC ยังคาดการณ์แนวโน้วการเติบโตของเศรษฐกิจที่น่ากังวล เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของราคก๊าซ โดยตอนนี้พวกเขาเชื่อว่า UK จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยตั้งแต่ไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 และจะอยู่ในภาวะถดถอยนานถึง 5 ไตรมาส ในขณะที่รายงานครัวเรือนแท้จริงหลังหักภาษีจะลดลงอย่างมากในปี 2565 และ 2566 และการบริโภคจะเริ่มหดตัว