ประธานสภาฯ สหรัฐฯ เดินทางถึงเกาะไต้หวันแล้วในวันอังคาร เพื่อย้ำการสนับสนุนของสหรัฐฯ ขณะที่จีนออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรง โดยชี้ว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของจีน

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวันแล้ว เมื่อวันอังคารที่ 2 ส.ค. 2565 ทำให้เธอกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของสหรัฐฯ ที่มาเยือนเกาะแห่งนี้ ในรอบ 25 ปี ท่ามกลางคำขู่ของรัฐบาลจีนว่า อเมริกาต้องแบกรับผลร้ายแรงที่จะตามมา

นางเพโลซี วัย 82 ปี เดินทางด้วยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ มายังท่าอากาศยานนานาชาติ ไทเป ซงซาน ของไต้หวัน ก่อนจะทักทายกับนาย โจเซฟ อู่ ก่อนที่เธอจะทวีตข้อความในเวลา 23.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ว่าการเยือนไต้หวันของคณะของเธอนั้น เป็นไปตามคำมั่นสัญญาที่ไม่หวั่นไหวของสหรัฐฯ ที่จะสนับสนุนประชาธิปไตยอันเจิดจ้าของไต้หวัน

“การหารือกับผู้นำของไต้หวันเป็นการยืนยันการสนับสนุนของเราต่อหุ้นส่วนของเรา และส่งเสริมผลประโยชน์ที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน ซึ่งรวมถึงการผลักดันการเปิดเสรีภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก” นางเพโลซีระบุในทวิตเตอร์ และเสริมด้วยว่า “ความเป็นหนึ่งเดียวของอเมริกากับชาวไต้หวัน 23 ล้านคนในวันนี้ สำคัญมากกว่าที่ผ่านมา ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับทางเลือกระหว่าง อัตตาธิปไตย และประชาธิปไตย”

ขณะที่ในแถลงการณ์ร่วมของนางเพโลซีกับคณะผู้แทนสภาคองเกรส ระบุว่า สหรัฐฯ จะต่อต้านความพยายามแต่เพียงฝ่ายเดียวเพื่อเปลี่ยนแปลงสถานะนี้ต่อไป “การเยือนของเราคือหนึ่งในการส่งคณะผู้แทนสภาคองเกรสหลายต่อหลายครั้งสู่ไต้หวัน และนั่นไม่ได้ขัดแย้งกับนโยบายที่มีมาอย่างยาวนานของสหรัฐฯ ซึ่งชี้นำโดยกฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน ปี 1979 (Taiwan Relations Act of 1979) กับแถลงการณ์ร่วมสหรัฐฯ-จีน และหลักประกัน 6 ประการ”

...

แถลงการณ์ระบุอีกว่า การเยือนไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของทริปเยือนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งรวมถึง สิงคโปร์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น โดยจะมุ่งเน้นไปที่ ความมั่นคงร่วมกัน, ความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย

ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ประณามการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซีทันที ว่า เป็นการกระทำที่อันตรายอย่างยิ่งยวด ส่งผลกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างรุนแรง และละเมิดอธิปไตยกับบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างร้ายแรง

“เรื่องนี้บ่อนทำลายความสงบและเสถียรภาพทั่วช่องแคบไต้หวันอย่างมหันต์ และส่งสัญญาณที่ผิดอย่างร้ายแรงแก่กองกำลังแบ่งแยกดินแดนเพื่อเอกราชของไต้หวัน” แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศจีนระบุ “จีนขอต่อต้านอย่างหนักแน่นและประณามการกระทำนี้ และขอยื่นหนังสือเพื่อประท้วงสหรัฐฯ อย่างรุนแรง”
.
ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา กระทรวงต่างประเทศจีนเพิ่งออกแถลงการณ์ขู่สหรัฐฯ ว่าต้องแบกรับผลที่ตามมาทั้งหมด หากนางเพโลซีเดินทางเยือนไต้หวัน ซึ่งจีนมองว่าเป็นดินแดนแยกตัวของพวกเขา ที่จะกลับมารวมเป็นหนึ่งเดียวกันอีกครั้งในสักวันหนึ่ง และอาจใช้กำลังหากจำเป็น ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่สะสมมานานหลายปี