ชาวฟิลิปปินส์หวาดผวาต้องนอนค้างคืนนอกตัวอาคาร หลังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมากว่า 800 ครั้ง โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ศพ บาดเจ็บอีกกว่า 150 คน

ประชาชนชาวฟิลิปปินส์ ในจังหวัดอาบราต้องพักค้างคืนนอกตัวอาคาร หลังจากเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกกว่า 800 ครั้ง ในช่วงคืนที่ผ่านมาโดยแต่ละครั้งห่างกันราว 15-20 นาที และมีอาฟเตอร์ช็อกที่รุนแรงจนรู้สึกได้ราว 24 ครั้ง โดยแรงสั่นสะเทือนจากเหตุแผ่นดินไหวขนาดความรุนแรง 7.1 ที่บริเวณเกาะลูซอน ทางเหนือของประเทศในช่วงเช้าวานนี้ได้สร้างความเสียหายไปถึงกรุงมะนิลา เมืองหลวงของประเทศ และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ศพ บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 150 ราย ขณะที่อาคารบ้านเรือนเสียหายและพังถล่มจำนวนมาก และยังมีรายงานดินถล่มปิดทับเส้นทางอีกหลายจุด ขณะที่กระแสไฟฟ้าในพื้นที่ไม่สามารถใช้การได้

ล่าสุดประธานาธิบดี เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส เจอาร์ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อตรวจเยี่ยมความเสียหายแล้ว พร้อมรับปากว่าจะดำเนินการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้นโดยเร็ว

ส่วนที่เมืองบีกัน เมืองโบราณที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางตะวันตกของเกาะลูซอน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดตีโมกอีโลโคส ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ มีรายงานว่าอาคารโบราณอายุเก่าแก่นับร้อยปีเสียหายหลายหลัง โดยนายเจเรมีแอส ซิงซัน ผู้ว่าราชการจังหวัดตีโมกอีโลโคสระบุว่า มีอาคารที่ได้รับผลกระทบมากถึง 460 หลัง ซึ่งรวมถึงหอระฆังบันไตที่พังถล่มลงมาบางส่วนด้วย

นับว่าเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ เป็นหนึ่งในเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นบนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ในรอบหลายปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนตุลาคมปี 2013 เกิดเหตุแผ่นดินไหว 7.1 แมกนิจูดบนเกาะโบโฮล ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 ศพ โบสถ์เก่าแก่ของชาวคาทอลิกได้รับความเสียหายหนัก มีประชาชนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนเกือบ 400,000 ราย และมีบ้านเรือนประชาชนนับหมื่นหลังที่ได้รับความเสียหาย

...

ขณะที่ในปี 1990 เกิดแผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด ทางตอนเหนือของประเทศ ทำให้เกิดรอยแยกบนแผ่นดินไกลกว่า 100 กิโลเมตร โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,200 ศพ โดยอาคารที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือกรุงมะนิลา.

ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย