ทางการยูเครนยอมรับ รัสเซียยึดเมืองเซเวโรโดเนตสก์ได้โดยสมบูรณ์แล้ว หลังต่อสู้มานานหลายเดือน ขณะที่เมืองอื่นๆ ในภาคตะวันออกกำลังถูกกดดันอย่างหนัก
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า นายโอเลกซานเดอร์ สตรีอุค หัวหน้าฝ่ายกิจการกองทัพของเมืองเซเวโรโดเนตสก์ (Severodonetsk) ยืนยันในวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. 2565 ว่า เมืองยุทธศาสตร์ทางตะวันออกของยูเครนแห่งนี้ ตกอยู่ในการควบคุมของกองทัพรัสเซียโดยสมบูรณ์แล้ว หลังจากต่อสู้อย่างดุเดือดมานานหลายเดือน
การเปิดเผยของนายสตรีอุคเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ กองทัพท้องถิ่นของยูเครนออกมาเปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กองกำลังกลุ่มสุดท้ายในเมืองเซเวโรโดเนตสก์ออกจากเมืองแล้ว เนื่องจากเป็นไปไม่ได้ที่ปกป้องที่มั่นของพวกเขาต่อไปได้ และทำให้เมืองแห่งนี้ตกอยู่ในมือของรัสเซีย ซึ่งหมายความว่าตอนนี้แคว้นลูฮานสก์ถูกรัสเซียควบคุมได้เกือบทั้งหมดแล้ว
ทั้งนี้ เมืองเซเวโรโดเนตสก์เคยเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นสุดท้ายไม่กี่แห่งที่กองทัพยูเครนเหลือในแคว้นลูฮานสก์ โดยนายเซอร์ฮี ไฮได ผู้ว่าและผู้บัญชาการกองทัพแคว้นโดเนตสก์กล่าวว่า กองทัพตัดสินใจอพยพเพราะจำนวนผู้เสียชีวิตในดินแดนที่ไม่สามารถจัดการป้องกันอาจเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
“ปัจจุบัน เป็นไปไม่ได้แล้วที่จะออกจากเมือง ผู้คนสามารถออกไปได้ผ่านดินแดนที่ถูกยึดครองแล้ว เราจะอำนวยความสะดวกในการอพยพ แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีโอกาสเช่นกันเกิดขึ้น” นายสตรีอุคกล่าว ขณะที่นายไฮไดเสริมว่า ยังมีพลเรือนหลายร้อยคนหลบอยู่ภายในโรงงานเคมี อาซอต และไม่ยอมอพยพตามคำขอของพวกเขา ขณะที่กองทัพรัสเซียยังยิงโจมตีโรงงานอย่างต่อเนื่อง
อีกด้านหนึ่ง ที่เมืองลิซิคานสก์ (Lysychansk) เมืองคู่แฝดของเมืองเซเวโรโดเนตสก์ซึ่งตั้งอยู่อีกฟากของแม่น้ำ กำลังเผชิญแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากกองทัพรัสเซีย ซึ่งยึดพื้นที่ทางใต้ของเมืองไปแล้ว และขณะนี้กำลังปิดล้อมเมืองเอาไว้ พร้อมทางดำเนินการโจมตีทางอากาศ
กองทัพยูเครนเปิดเผยในวันเสาร์ว่า รัสเซียยังคงพยายามตัดขาดทางหลวงจากเมืองบัคห์มุต (Bakhmut) ไปยังเมืองลิซิคานสก์ ขณะที่ทหารของพวกเขาหยุดยั่งการรุกคืบของทหารราบรัสเซียใกล้เมืองโวโลดีมีริฟกา ซึ่งห่างจากทางหลวงดังกล่าวราว 5 กม.ได้ อย่างไรก็ตาม กองทัพยูเครนยอมรับว่า ทหารรัสเซียรุกคืบเข้าใกล้เมืองบัคห์มุตได้อีก 1 กม.
ดูเหมือนว่า เป้าหมายของรัสเซียคือการตัดขาดกองกำลังของบูเครนในแคว้นลูฮานสก์และโดเนตสก์ โดยหากยึดเมืองบัคห์มุตสำเร็จ พวกเขาจะสามารถตัดเส้นทางเติมเสบียงส่วนใหญ่ไปยังทหารยูเครนในเมืองลิซิคานสก์และเขตโดยรอบได้เกือบทั้งหมด