ภาคใต้จีนประสบมหาอุทกภัย เผชิญฝนตกหนักสุดในรอบ 60 ปี ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหลายมณฑล ขณะที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจู ระดับน้ำขึ้นสูงสุดในรอบ 100 ปี
ชาวจีนในหลายมณฑลทางภาคใต้ของจีน รวมทั้ง กวางตุ้ง, ฝูเจี้ยน และกุ้ยโจวกำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากการประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ หลังเกิดฝนตกหนักในหลายมณฑลจนวัดปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบ 60 ปี
...
ส่งผลให้แม่น้ำจู หรือชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่าแม่น้ำเพิร์ล (ไข่มุก) ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่มีความยาวถึง 2,400 กิโลเมตร จนนับเป็นแม่น้ำสายยาวที่สุดเป็นอันดับ 3 ของจีน โดยมีระบบสาขาของแม่น้ำครอบคลุมบริเวณกว้างทางภาคใต้ของประเทศจีนนั้น มีระดับน้ำขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 100 ปี
ขณะที่ทางการจีนต้องเร่งระบายน้ำออกจากเขื่อนหลายแห่ง เนื่องจากปริมาณมวลน้ำมหาศาลได้ไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนจนเต็มความจุ ทำให้ต้องรีบเร่งระบายน้ำออกจากเหนือเขื่อน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดหายนะภัยเขื่อนแตกตามมา
ทางการจีนได้มีการอพยพประชาชนหลายแสนคนออกจากบ้านเรือนให้ไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย รวมทั้งที่มณฑลกวางตุ้ง ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและโลจิสติกส์ เป็นที่ตั้งของเมืองเซินเจิ้น ซึ่งถือเป็นเมืองหลวงด้านไอทีของจีน ก็ต้องประสบอุทกภัยครั้งใหญ่ในคราวนี้ด้วย
มีรายงานว่าที่มณฑลกวางตุ้ง ประชาชนนับ 5 แสนคนได้รับผลกระทบจากอุทกภัยและดินโคลนถล่ม โดยมีชาวบ้านกว่า 1.7 แสนคน ต้องถูกอพยพ บ้านพังเสียหายแล้วกว่า 1,700 หลัง
สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า ในช่วง 46 วัน ระหว่าง 1 พ.ค. - 15 มิ.ย. 65 มีฝนตกหนักในมณฑลกวางตุ้ง ฝูเจี้ยน และเขตปกครองตนเองกวางสี หรือกว่างซีจ้วง จนวัดปริมาณน้ำฝนสะสมได้ถึง 621 มิลลิเมตร สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2504
โดยฤดูน้ำหลากในจีนปีนี้ ทำให้ตั้งแต่ต้น มิ.ย. 65 เกิดฝนตกหนักในภาคใต้ของจีน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 ศพ บ้านพังเสียหายกว่า 2,700 หลัง และนาข้าวในมณฑลหูหนานถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายแล้วเกือบ 6 แสนไร่
ก่อนหน้านี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ เตือนว่าประเทศจีน ที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล กว่า 9.4 ล้านตารางกิโลเมตร และมีประชากรกว่า 1.4 พันล้านคน จะเผชิญกับสภาพอากาศแบบเอ็กซ์ตรีม-รุนแรงเลวร้ายมากขึ้น โดยในปีนี้ ภาคใต้ของจีนจะเกิดฝนตกหนักมากขึ้น ส่วนภาคเหนือจะเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงและแห้งแล้งมากกว่าเดิม.