จีนสั่งถอดถอนรองหัวหน้าตำรวจเขตลู่เป่ย ในเมืองถังชาน ฐานรับมือล่าช้าและไม่เหมาะสม กรณีกลุ่มชายฉกรรจ์ทำร้ายผู้หญิงในร้านอาหาร ซึ่งสร้างกระแสไม่พอใจไปทั่วประเทศ
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อ 21 มิ.ย. 2565 รองผู้กำกับการตำรวจเขตลู่เป่ย ในเมืองถังชาน มณฑลเหอเป่ย ทางเหนือของประเทศจีน ถูกถอดถอน หลังจากผลการสืบสวนพบว่าเขาและเจ้าหน้าที่นายอื่นๆ ดำเนินการล่าช้าและไม่เหมาะสมในการจัดการคดีกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายผู้หญิง 4 คน ที่ร้านอาหาร แต่ไม่แน่ชัดว่าเขาถูกปลดจากตำแหน่ง หรือถูกพักงาน
เหตุความรุนแรงดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงเช้ามืดวันที่ 10 มิ.ย. ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาหญิงคนหนึ่งซึ่งนั่งทานอาหารกับเพื่อนภายในร้านบาร์บีคิว และเอามือวางทาบบนหลังของเธอ ซึ่งเธอพยายามผลักชายคนนี้ออกไป แต่กลับถูกตบทำร้าย ก่อยที่ชายคนอื่นๆ จะมาลากตัวเธอออกไปนอกร้านแล้วรุมกระทืบ
ภาพยังแสดงให้เห็นว่าชายกลุ่มนี้ทำร้ายเพื่อนที่มากับหญิงรายนี้ด้วย ขณะที่ผู้หญิงอีกคนพยายามเข้าไปห้าม แต่กลับถูกผลักจนล้มหงายหลัง ศีรษะกระแทกขั้นบันไดหน้าร้าน โดยหลังเกิดเหตุ ตำรวจท้องถิ่นออกแถลงการณ์ระบุว่า มีผู้หญิงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย โดย 2 รายต้องเข้าโรงพยาบาลและมีอาการทรงตัว
อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยในภายหลังว่า การบาดเจ็บของพวกเธอรุนแรงกว่าที่ตำรวจบอกมาก โดยหญิง 2 คนที่เข้าโรงพยาบาลต้องเข้าห้องไอซียูช่วงระยะเวลาหนึ่ง และจนถึงตอนนี้ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ ส่วนอีก 2 คนมีภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าพวกเธอโชกไปด้วยเลือด
นอกจากนั้นตำรวจยังถูกครหาว่ามายังที่เกิดเหตุล่าช้าด้วย โดยตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุในเวลา 03.09 น. หรือ 28 นาที หลังจากได้รับแจ้งเหตุในเวลา 02.41 น. ขณะที่กลุ่มชายผู้ก่อเหตุหลบหนีไปตั้งแต่เวลา 02.47 น.แล้ว ก่อนที่หลายวันต่อมาตำรวจเมืองถังชานจะออกมาเปิดเผยว่า จับผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 9 ราย เป็นชาย 7 คน หญิง 2 คน
...
ข้อครหาที่เกิดขึ้นทำให้สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะมณฑลเหอเป่ยได้ทำการสืบสวนเชิงลึกเป็นการภายใน และพบว่าตำรวจออกปฏิบัติการล่าช้าเกินไป และมีการละเมิดวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งส่งผลกระทบในด้านลบ และทำให้เกิดความกังวลเป็นวงกว้าง จึงมีคำสั่งถอดถอนรองผู้กำกับฯ แซ่ “หลี่” และกำลังสืบสวนเจ้าหน้าที่อีก 4 นาย
ทั้งนี้ มีรายงานเปิดเผยว่า หนึ่งในผู้ต้องสงสัยหลักในเหตุการณ์นี้เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมมากมาย ทั้งการพนันผิดกฎหมาย, กักขังหน่วงเหนี่ยว และทะเลาะวิวาท โดยตำรวจได้ยกระดับการสืบสวนเพื่อหาว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เกี่ยวข้องกับแก๊งอาชญากรรมหรือไม่.