(ภาพประกอบ)
สงครามในยูเครน ดำเนินมาถึงวันที่ 113 นับตั้งแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ส่งกองกำลังทหารรัสเซียบุกยูเครน เมื่อ 24 ก.พ. 2565
- ทหารยูเครนที่ปักหลักอยู่ในโรงงานเคมีอาซอต ที่เมืองเซเวโรโดเนตสก์ จังหวัดลูฮานสก์ ไม่สนใจคำเตือนของรัสเซียที่บอกให้ยอมจำนน ในขณะที่สหประชาชาติแจ้งเตือน อาหารและสิ่งของจำเป็นในเมืองเซเวโรโดเนตสก์กำลังใกล้จะหมด ในขณะที่ยังมีพลเรือนหลายพันคนยังติดอยู่ในเมือง รวมทั้งยังมีพลเรือนจำนวนมากหลบภัยอยู่ในโรงงานเคมีอาซอต
- กองทัพรัสเซียแถลงว่า กองกำลังรัสเซียใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลยิงโจมตีคลังแสงในเมืองลวีฟ หรือลวิว ทางภาคตะวันตกของยูเครนติดกับโปแลนด์ โดยคลังแสงแห่งนี้เป็นที่เก็บเครื่องกระสุนที่นาโตส่งมาช่วยยูเครน
- พลเรือนชาวอเมริกัน 2 คน ซึ่งเดินทางมายังยูเครนเพื่อเข้าร่วมในกองทัพยูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย ได้สูญหายไปเป็นเวลานับสัปดาห์แล้ว และหวั่นเกรงว่าทั้งสองได้ถูกทหารรัสเซียจับกุมตัวไป ในขณะที่โฆษกหน่วยงานด้านความมั่นคงของทำเนียบขาวกล่าวว่าหากข่าวเหล่านี้เป็นจริง รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำทุกอย่างที่สามารถทำได้เพื่อนำตัวชาวอเมริกันทั้งสองกลับคืนมา
...
- รัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงแก่ยูเครนเพิ่มเติมอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งปืนค.18 กระบอก เครื่องกระสุน 36,000 นัด และรถยนต์สำหรับติดตั้งปืนค.18 คัน ในขณะที่เอกอัครราชทูตของรัสเซียประจำสหประชาชาติได้ประณามชาติตะวันตกที่ส่งอาวุธมาช่วยยูเครน
- ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงแห่งฝรั่งเศส พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีมารีโอ ดรากี แห่งอิตาลี เดินทางมาถึงกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน เพื่อร่วมหารือกับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี
- นักการทูตและเจ้าหน้าที่ในสหภาพยุโรปเปิดเผย มีการคาดการณ์ว่าคณะผู้บริหารของสหภาพยุโรปจะเสนอให้ยูเครนมีสถานะเป็นประเทศที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปอย่างป็นทางการ.
ที่มา : Aljazeera