ส่องเหตุกราดยิงถี่ยิบในสหรัฐฯ 11 เหตุ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

• เหตุกราดยิงในสหรัฐฯ ยังเกิดขึ้นต่อเนื่องรายวัน เฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์วันศุกร์ถึงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเหตุกราดยิงเกิดขึ้นถี่ยิบถึง 11 เหตุการณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ศพ บาดเจ็บอีก 62 ราย
• เหตุความรุนแรงโดยอาวุธปืนเริ่มกลายมาเป็นเหตุการณ์ที่อยู่คู่กับชาวอเมริกัน โดยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงปี 1968-2017 สูงกว่าจำนวนของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตจากการสู้รบในทุกสงคราม
• มีการประมาณการตัวเลขเมื่อปี 2018 ว่า มีอาวุธปืนที่มีผู้ครอบครองอยู่ในสหรัฐฯ ราว 390 ล้านกระบอก

ปัญหาความรุนแรงจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ ดูจะเป็นปัญหาเรื้อรังที่ไร้ทางออก โดยเฉพาะในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ยังคงมีเหตุกราดยิงเกิดขึ้นรายวัน วันละหลายครั้ง โดยแค่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุกราดยิงเกิดขึ้น อย่างน้อย 11 เหตุการณ์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ศพ บาดเจ็บอีก 62 ราย โดยหลายฝ่ายมองว่าเหตุความรุนแรงโดยอาวุธปืนเริ่มกลายมาเป็นเหตุการณ์ที่อยู่คู่กับชาวอเมริกันไปแล้ว โดยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงปี 1968-2017 สูงกว่าจำนวนของทหารอเมริกันที่เสียชีวิตจากการสู้รบในทุกสงคราม นับตั้งแต่สงครามปฏิวัติอเมริกาในปี 1775 เป็นต้นมา ขณะที่มีการประมาณการตัวเลขเมื่อปี 2018 ว่า มีอาวุธปืนที่มีผู้ครอบครองอยู่ในสหรัฐฯ ราว 390 ล้านกระบอก

เฉพาะในปี 2020 มีชาวอเมริกันสังเวยชีวิตจากอาวุธปืนมากกว่า 45,000 ศพ ทั้งการฆ่าตัวตาย และการถูกฆาตกรรม ซึ่งนับว่าทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่มีมา โดยตัวเลขนี้นับว่าเพิ่มขึ้นจาก 5 ปีก่อนหน้าถึง 25 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มขึ้นจากปี 2010 ถึง 43 เปอร์เซ็นต์

ที่น่าตกใจคือในขณะที่เวลานี้หลายฝ่าย โดยเฉพาะผู้นำสหรัฐฯ กำลังเริ่มเคลื่อนไหวจริงจัง เพื่อให้มีการคุมเข้มการครอบครองอาวุธปืนให้มากขึ้น กลับเกิดเหตุกราดยิงถี่ยิบในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เราลองไปดูกันว่าในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เหตุกราดยิงในสหรัฐฯ อย่างน้อย 11 เหตุการณ์ เกิดขึ้นที่ไหนบ้าง

กราดยิงที่ฟิลาเดลเฟีย ตาย 3 ศพ เจ็บอย่างน้อย 11 ราย

เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่สี่แยกในเมืองฟิลาเดลเฟีย ในย่านถนนสายบันเทิง ช่วงก่อนเที่ยงคืนคืนวันเสาร์ โดยมือปืนเปิดฉากยิงใส่ฝูงชนบริเวณสี่แยก ทำให้ผู้คนวิ่งหนีตาย ตำรวจพยายามเข้าระงับเหตุและยิงใส่คนร้าย 3 นัด ก่อนที่คนร้ายจะอาศัยช่วงชุลมุนหลบหนีหายไปในฝูงชน โดยเหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 3 ศพ บาดเจ็บอีก 11 ราย โดยจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อแกะรอยคนร้าย เบื้องต้นคาดว่ามูลเหตุเกิดจากการทะเลาะวิวาทกัน โดยเมืองฟิลาเดลเฟียมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุฆาตกรรมทำสถิติถึง 218 ศพในปีนี้ ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนเพียง 9 ศพ

เหตุกราดยิงเป็นรอบที่ 2 ในช่วงสัปดาห์ ในเมืองชัททานูกา รัฐเทนเนสซี

เกิดเหตุกราดยิงเป็นรอบที่สองของสัปดาห์ ในย่านดาวน์ทาวน์เมืองชัททานูกา รัฐเทนเนสซี ของสหรัฐฯ ในช่วงตีสาม โดยเหตุการณ์นี้มีมือปืนผู้ก่อเหตุหลายคน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ศพ และบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 11 ราย และยังไม่สามารถจับกุมมือปืนผู้ก่อเหตุได้เช่นกัน โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์นี้เพิ่งมีเหตุกราดยิงในย่านเดียวกันเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นมีวัยรุ่นถูกยิง 6 คน ในจำนวนนี้ 2 คนอาการสาหัส

เด็กอายุ 14 ถูกยิงตายในงานปาร์ตี้ฟินิกซ์

เหตุกราดยิงในเมืองฟินิกซ์เกิดขึ้นในช่วงตี 1 ตามเวลาในท้องถิ่นของวันเสาร์ที่ผ่านมา บริเวณห้างสรรพสินค้าทางตอนเหนือของเมือง ในขณะที่กำลังมีการจัดงานปาร์ตี้ และมีคนมาร่วมงานกว่า 100 คน โดยคนร้ายยิงปืนรัวเข้าใส่ฝูงชน จนทุกคนวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง เหตุการณ์นี้ทำให้เด็กหญิงวัย 14 ปี ถูกยิงเสียชีวิต และมีหญิงสาวอีก 2 คนบาดเจ็บสาหัส และยังมีผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 6 ราย

เหตุยิงกันในเมืองเมซา รัฐแอริโซนา เสียชีวิต 2 ศพ

เกิดเหตุยิงกันในบาร์ในเมืองเมซา รัฐแอริโซนา ในช่วงเช้ามืดของวันอาทิตย์ เวลาประมาณตี 2 ครึ่ง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ เป็นผู้ชายถูกยิงเสียชีวิตในลานจอดรถ และมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยหลังตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุก็พบรถยนต์สีเงินคันหนึ่งขับหลบหนีไปด้วยความเร็ว ตำรวจจึงเร่งขับรถไล่ล่าเพื่อจับกุมผู้ก่อเหตุ ก่อนที่คนร้ายจะจนมุมถูกตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ 3 คน โดยจากการตรวจค้นรถไม่พบอาวุธปืน แต่มีรายงานว่าคนร้ายได้ทิ้งอาวุธปืนระหว่างทางที่ขับหลบหนี และตำรวจยังคงเร่งสอบสวนเพื่อดำเนินคดี

เหตุยิงกันในงานฉลองสำเร็จการศึกษาในเมืองโซคอร์โร รัฐเทกซัส

เหยื่ออาวุธปืนในเหตุการณ์นี้เป็นเด็กวัยรุ่น 5 คนที่ถูกยิงจนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่กำลังร่วมในงานปาร์ตี้ฉลองสำเร็จการศึกษา ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย โดยขณะเกิดเหตุมีวัยรุ่นราว 100 คนที่มาร่วมงานที่จัดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง ก่อนที่คนร้ายจะบุกเข้ามาและใช้อาวุธปืนไล่ยิงคนที่มาร่วมงาน โดยเหยื่อที่ถูกยิงมีอายุระหว่าง 16-18 ปี โดยตำรวจยังไม่ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุมีกี่คน แต่สันนิษฐานว่าเป็นการก่อเหตุที่มุ่งเป้าไปที่เหยื่อแบบเฉพาะเจาะจงไม่กี่คน ซึ่งจนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการจับกุมคนร้ายในคดีนี้แต่อย่างใด

โดยเหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโจไบเดนเพิ่งมีการกล่าวสุนทรพจน์แสดงความกังวลต่อเหตุความรุนแรงด้วยอาวุธปืนที่เกิดขึ้นทั่วประเทศ โดยเฉพาะเหตุกราดยิงโรงเรียนประถมในรัฐเทกซัสเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมา ที่ทำให้นักเรียนเสียชีวิต 19 ศพ และครูเสียชีวิตอีก 2 ศพ รวมทั้งยังมีเหตุกราดยิงในซุปเปอร์มาร์เก็ตในนิวยอร์ก และเหตุกราดยิงในโรงพยาบาลในโอกลาโฮมาที่ทำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 4 ศพ ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องกันรายวัน

เหตุกราดยิงในงานฉลองจบการศึกษาที่เซาท์แคโรไลนาถูกยิง 8 ราย ตาย 1

ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้คือหญิงวัย 32 ปี และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็กวัยเพียง 12 ปี และ 5 ปี โดยเหตุกราดยิงเกิดขึ้นในขณะที่โรงเรียนมัธยมในซัมเมอร์ตันกำลังจัดงานเลี้ยงจบการศึกษา โดยมีรถ 2 คันขับเข้ามาจอดในงานในช่วงดึกวันเสาร์ ก่อนที่คนร้ายจะเปิดฉากกราดยิงอย่างน้อย 70 นัด ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามจับกุมคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแก๊งอันธพาล โดยยังไม่มีการจับกุมผู้ต้องหาแต่อย่างใด

เหตุกราดยิงในแกรนด์ แรพิดส์ รัฐมิชิแกน ดับ 1 ศพ เจ็บ 3 ราย

เหตุกราดยิงครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ เป็นชายวัย 25 ปี และมีผู้บาดเจ็บอีก 3 ราย แต่ทั้ง 3 อาการปลอดภัยแล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนในเมืองแกรนด์ แรพิดส์ รัฐมิชิแกน เมื่อช่วงเช้ามืดวันเสาร์ ขณะที่กลุ่มผู้เคราะห์ร้ายกำลังยืนอยู่บริเวณสี่แยกใกล้กับคาลเดอร์ พลาซ่า ในย่านดาวน์ทาวน์ ซึ่งกำลังมีการจัดงานเทศกาลศิลปะในช่วงสุดสัปดาห์ โดยตำรวจยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุแต่อย่างใด

3 ศพสังเวยเหตุกราดยิงในเมืองแซกินอว์ รัฐมิชิแกน

เหตุกราดยิงครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันอาทิตย์ โดยคนร้ายเปิดฉากยิงบนถนนในเมืองแซกินอว์ รัฐมิชิแกน ส่งผลให้มีผู้ชายอีก 2 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่ผู้หญิงอีกรายหนึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาล และยังมีรายงานผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย และเช่นเคยเหตุการณ์นี้ยังไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้เช่นกัน

เหตุกราดยิงในเมืองเฮมป์สเตด นิวยอร์ก บาดเจ็บ 4 ตาย 1

ปิดท้ายสัปดาห์ด้วยเหตุกราดยิงเมื่อคืนวันเสาร์ที่บ้านแห่งหนึ่งในเมืองเฮมป์สเตด รัฐนิวยอร์ก โดยตำรวจได้รับแจ้งเหตุยิงกันในช่วงสี่ทุ่ม ที่บ้านร้างหลังหนึ่ง และมาพบผู้บาดเจ็บหลายราย โดยวัยรุ่นชายอายุ 19 ปี เสียชีวิต 1 ศพ ด้านหลังบ้าน และมีผู้ชายถูกยิงบาดเจ็บอีก 3 คน อายุ 23, 31 และ 35 ปี โดยทั้งหมดอาการไม่สาหัส และถูกนำส่งโรงพยาบาล และยังไม่มีรายงานการจับกุมคนร้ายแต่อย่างใด

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบตัวเลขการเข่นฆ่ากันในสหรัฐฯ กับประเทศอื่นๆ ข้อมูลจากซีดีซี ชี้ว่า ในปี 2020 สาเหตุการเสียชีวิตของชาวอเมริกัน 43 เปอร์เซ็นต์ เป็นผู้เสียชีวิตจากการฆาตกรรม หรือคิดเป็นจำนวนราว 19,384 ราย ตัวเลขนี้นับว่าเพิ่มขึ้นมาถึง 34 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2019 และเพิ่มขึ้นมาถึง 75 เปอร์เซ็นต์ จาก 10 ปีก่อน

โดยมีเหยื่อที่เสียชีวิตจากอาวุธปืนราว 53 คนต่อวัน และตัวเลขยังแสดงให้เห็นด้วยว่า เหตุฆาตกรรมถึง 79 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการใช้อาวุธปืน ซึ่งหากพิจารณาตัวเลขเหล่านี้แล้วจะพบว่าจำนวนของผู้เสียชีวิตจากอาวุธปืนในสหรัฐฯ มีจำนวนมากกว่าประเทศอื่นๆ อย่างมีนัยสำคัญ ทั้งแคนาดา ออสเตรเลีย อังกฤษ เวลส์ และประเทศอื่นๆ ทั่วโลกด้วย.

ผู้เขียน : อาจุมมาโอปอล

ที่มา : บีบีซี, เอบีซี