ทูตสหภาพยุโรปตกลงกันไม่ได้เรื่องการแบนน้ำมันจากรัสเซีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรระลอกที่ 6 ที่พวกเขาจะใช้กับมอสโก เพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า ทูตของสหภาพยุโรปประสบความล้มเหลวในการบรรลุความเห็นชอบเรื่องการห้ามซื้อน้ำมันจากรัสเซีย ในการประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 พ.ค. 2565 แต่พวกเขายืนยันว่า จะพยายามทำให้เกิดความคืบหน้า ก่อนที่ผู้นำ EU จะร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ในวันจันทร์และอังคารนี้
ทั้งนี้ มาตรการห้ามนำเข้าน้ำมันรัสเซียดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของแพ็กเกจคว่ำบาตรรัสเซียระลอกที่ 6 ของสหภาพยุโรป เพื่อตอบโต้ที่ปูตินสั่งโจมตียูเครน และรวมถึงมาตรการอื่นๆ เช่น ตัดธนาคารใหญ่สุดของรัสเซียอย่าง สเบอร์แบงก์ (Sberbank) ออกจากระบบการเงิน SWIFT, แบนผู้กระจายเสียงทางวิทยุหรือโทรทัศน์รัสเซียใน EU, และเพิ่มบุคคลจะถูกอายัดทรัพย์และไม่สามารถเข้า EU ได้
อย่างไรก็ตาม การออกแพ็กเกจคว่ำบาตรระลอกที่ 6 ถูกรั้งไว้โดยฮังการี ซึ่งระบุว่า การห้ามซื้อน้ำมันรัสเซียจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของพวกเขาอย่างรุนแรง เพราะพวกเขาไม่สามารถหาน้ำมันจากแหล่งอื่นได้โดยง่าย ขณะที่สโลวาเกียกับสาธารณรัฐเช็ก ก็แสดงความกังวลคล้ายๆ กัน
ความเห็นที่แตกต่างทำให้การหารือเรื่องห้ามซื้อน้ำมันรัสเซียดำเนินมานานกว่า 1 เดือนโดยไม่มีความคืบหน้า ทำให้คณะกรรมการยุโรป (EC) เสนอแผนเพื่อหาทางออก โดยจะแบนเฉพาะน้ำมันรัสเซียที่ขนส่งเข้าสหภาพยุโรปผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน ให้ฮังการี, สโลวาเกีย และเช็ก รับน้ำมันรัสเซียจากท่อส่ง ดรุชบา ได้ต่อไปอีกระยะหนึ่ง จนกว่าหาทางนำเข้าน้ำมันจากแหล่งอื่นได้
...
ข้อเสนอดังกล่าวได้รับการตอบรับที่ดีจากรัฐบาลฮังการี แต่การเจรจาเมื่อวันอาทิตย์กลับเกิดอุปสรรคในเรื่องการเงินของสหภาพยุโรป โดยฮังการีต้องการเพิ่มขีดจำกัดของท่อส่งน้ำมันจากโครเอเชีย และให้โรงกลั่นของพวกเขาเปลี่ยนไปเทียบราคาจากตลาดเบรนต์ แทนอูรัล ของรัสเซีย ซึ่งทูต EU จะหารือเรื่องนี้ในเช้าวันจันทร์.