ข้อกังวลของสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรต่อกรณีเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธรอบใหม่

• ยังไม่ทันถึงครึ่งแรกของปีนี้ เกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธไปแล้วถึง 17 ครั้ง รวมไปถึงทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (Intercontinental Ballistic Missiles-ICBM) เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2560 การทดสอบครั้งล่าสุดมีขึ้นเพียง 1 วันหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เสร็จสิ้นการเยือนเอเชีย
• ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีคิม จองอึน แห่งเกาหลีเหนือประกาศยกระดับโครงการพัฒนาขีปนาวุธ ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือกลับมาทำการก่อสร้างและมีการเคลื่อนไหวคึกคักบริษัทใกล้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แม้ว่าประชาชนจะกำลังเผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาวะขาดแคลนยา และขาดแคลนอาหาร 
• จากข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า เกาหลีเหนือได้มีการทดสอบขีปนาวุธชนิดใหม่ที่สหรัฐฯ ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นขีปนาวุธที่มีวิถีการทิ้งตัวผิดแปลกจากเดิม เส้นทางการเคลื่อนที่เป็นแนวโค้ง 2 ช่วง (double arc) อาจบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังทดสอบความสามารถในการยิงขีปนาวุธให้กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก เพื่อพุ่งโจมตีเป้าหมาย

เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือทำการทดสอบยิงขีปนาวุธ 3 ลูก โดยคณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ระบุว่า ขีปนาวุธลูกหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป ถูกยิงเมื่อเวลาประมาณ 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีระยะการบินประมาณ 360 กิโลเมตร และระดับความสูงประมาณ 540 กิโลเมตร

ต่อมาในเวลาประมาณ 06.37 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธลูกที่ 2 ซึ่งเชื่อว่าไม่ใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป และดูเหมือนว่าจะหายไปจากการติดตามของเกาหลีใต้ที่ระดับความสูง 20 กิโลเมตร และเชื่อว่าขีปนาวุธลูกนี้บินผ่านเขตที่มีประชาชนอาศัยอยู่ จากนั้นเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธลูกที่ 3 ซึ่งเชื่อว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ (Short-Range Ballistic Missile-SRBM) บินไกลประมาณ 760 กิโลเมตร และมีระดับความสูง 60 กิโลเมตร

หลายฝ่ายเชื่อว่า การยิงขีปนาวุธของเกาลีเหนือรอบนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้กรณีที่ผู้นำสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ พบหารือกันเรื่องการขยายความร่วมมือด้านการซ้อมรบระหว่างกองทัพของสองประเทศ หลังจากการซ้อมรบร่วมได้ระงับไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยสหรัฐฯ อาจประจำการทหารเพิ่มเติมในดินแดนเกาหลีใต้เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า การเสริมกำลังทหารหรือขยายการซ้อมรบอาจทำให้เกาหลีเหนือไม่พอใจ และเขาจะพบหารือกับผู้นำเกาหลีเหนือก็ต่อเมื่อผู้นำเกาหลีเหนือมีความจริงใจและจริงจังเกี่ยวกับการปลดอาวุธนิวเคลียร์ 

ทางด้านนักวิเคราะห์ข้อมูลข่าวกรองของสหรัฐฯ ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่ระบุว่า ในการทดสอบขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือได้มีการทดสอบขีปนาวุธชนิดใหม่ที่สหรัฐฯ ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นขีปนาวุธที่มีวิถีการทิ้งตัวผิดแปลกจากเดิม เส้นทางการเคลื่อนที่เป็นแนวโค้ง 2 ช่วง (double arc) คือบินขึ้นสูงแล้วจากนั้นร่อนลงมา 2 ครั้ง ซึ่งวิถีโคจรเช่นนี้อาจบ่งชี้ว่า เกาหลีเหนือกำลังทดสอบความสามารถในการยิงขีปนาวุธให้กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศของโลก เพื่อพุ่งโจมตีเป้าหมาย หรืออาจจะเป็นขีปนาวุธที่มีการปล่อยท่อนหนึ่งออกมาจากท่อนหลัก 

โดยสหรัฐฯ บอกว่า เป็นการเปิดเผยจากข้อมูลการตรวจสอบเบื้องต้นเท่านั้น ตอนนี้ยังไม่แน่ชัดและต้องเร่งตรวจสอบเส้นทางวิถีของขีปนาวุธอย่างละเอียดทั้งหมดอีกครั้ง 

ขณะเดียวกันนายโนบูโอะ คิชิ รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธเกาหลีเหนือ 1 ใน 3 ลูกมีวิถีการยิงโค้งที่ผิดแปลกจากเดิม และยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า ขีปนาวุธทั้ง 3 ลูกมีความผิดปกติทั้งหมดหรือไม่ 

ด้านนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายพัค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ และนายโยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ออกแถลงการณ์ร่วมแสดงความวิตกกังวลอย่างมากต่อการทดสอบยิงขีปนาวุธข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยระบุว่าเกาหลีเหนือได้เร่งพัฒนาขีปนาวุธตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว ซึ่งการยิงแต่ละครั้งเป็นการฝ่าฝืนมติของคณะมนตรีความมั่นคง แห่งสหประชาชาติ เป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อภูมิภาคและประชาคมระหว่างประเทศ 

ด้านนางลินดา โธมัส กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำองค์การสหประชาชาติ กล่าวว่า การยิงขีปนาวุธ 3 ลูกของเกาหลีเหนือ เมื่อวันที่ 25 พ.ค.เป็นอีกครั้งที่มีขีปนาวุธข้ามทวีปรวมอยู่ด้วย โดยสหรัฐฯ ประเมินว่า นี่เป็นการยิงขีปนาวุธข้ามทวีปครั้งที่ 6 ของเกาหลีเหนือ นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2565 พร้อมกันนี้เธอเตือนว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 23 ลูกตั้งแต่ต้นปีมานี้ และกำลังเตรียมทดสอบนิวเคลียร์อย่างจริงจัง

ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ติดตามสถานการณ์เกาหลีเหนือต่างมีความวิตกกังวลว่า เกาหลีเหนือน่าจะกำลังเตรียมทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดินครั้งแรก นับตั้งแต่เคยทดสอบไปเมื่อปี 2560 เกาหลีใต้ตรวจพบสัญญาณว่าเกาหลีเหนือมีการทดสอบจุดชนวนอุปกรณ์ทดสอบนิวเคลียร์ อาจเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนทดสอบของจริง

หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธล่าสุดได้เพียง 2 วัน ทางที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ 15 ประเทศได้เปิดการลงมติผลักดันการออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่เพื่อลงโทษเกาหลีเหนือ แต่ผลปรากฏว่าที่ประชุมลงมติ 13 ต่อ 2 เสียง ต่อญัตติที่ร่างขึ้นและนำเสนอโดยสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้มีการออกมาตรการคว่ำบาตรรอบใหม่ต่อเกาหลีเหนือ ที่มีการทดสอบขีปนาวุธพิสัยไกล โดยการลงมติครั้งนี้มีจีน และรัสเซีย สมาชิกถาวร 2 ใน 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นพร้อมใจกันใช้สิทธิวีโต้ ส่งผลให้ญัตตินี้ถูกคว่ำไป นับเป็นความแตกแยกครั้งแรกที่เกิดขึ้นภายในคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น นับตั้งแต่องค์กรแห่งนี้มีการออกมาตรการคว่ำบาตรลงโทษเกาหลีเหนือเมื่อปี 2549.

ผู้เขียน : เพ็ญโสภา สุคนธรักษ์

ข้อมูล : CNN The Guardian