บอริส จอห์นสัน ยืนยันไม่ลาออกจากตำแหน่ง หลังรายงานล่าสุดแฉว่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลของเขาจัดปาร์ตี้ยันเช้า รวมทั้งดื่มสุราอย่างหนัก ทั้งที่ประชาชนกำลังลำบากเพราะการล็อกดาวน์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 25 พ.ค. 2565 นายกรัฐมนตรี บอริส จอห์นสัน แห่งสหราชอาณาจักร กล่าวขอโทษในสภาผู้แทนราษฎรที่ทำผิดกฎควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากรายงานผลการสืบสวนล่าสุดชี้ว่า เขากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายคน กินเลี้ยง ดื่มสุราอย่างหนัก ที่บ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิงจนถึงเช้า ในขณะที่ประชาชนทั่วประเทศถูกล็อกดาวน์
รายงานฉบับล่าสุดของนาง ซู เกรย์ ข้าราชการพลเรือนอาวุโสของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งตรวจสอบการจัดงานอีเวนต์ 16 งานของรัฐบาลในช่วงที่สหราชอาณาจักรยังอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ พบว่า ปาร์ตี้หลายงานจัดขึ้นจนถึงตี 4 เจ้าหน้าที่เมาสุราจนอาเจียนและทะเลาะวิวาทกัน กำแพงของบ้านเลขที่ 10 อันเป็นสำนักงานนายกรัฐมนตรี เปรอะเปื้อนไปด้วยไวน์แดง และที่งานเลี้ยงวันเกิดของนายจอห์นสันซึ่งจัดขึ้นอย่างผิดกฎหมาย ก็มีการดื่มเบียร์ถึง 6 แพ็กจนหมด
นางเกรย์โจมตีวัฒนธรรมการจัดงานอย่างละเมิดกฎหมายของรัฐบาล พร้อมทั้งเผยแพร่รูปภาพใหม่แสดงให้เห็นนายจอห์นสันเข้าร่วมงานรวมตัว 2 งาน หนึ่งในนั้นเป็นภาพนายจอห์นสันชูกระป๋องเบียร์ขึ้นเพื่อฉลองวันเกิดของตัวเอง
“เจ้าหน้าที่อาวุโสในศูนย์กลางรัฐบาลของนายจอห์นสัน ต้องรับผิดชอบที่ยอมให้วัฒนธรรมการจัดงานเลี้ยงแบบนี้เกิดขึ้น” นางเกรย์กล่าว และเสริมด้วยว่า ในการสืบสวนเธอพบพฤติกรรมหลายอย่างที่ไม่อาจแก้ตัวได้ รวมถึงการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินพอ ขณะที่ในอีเมลที่เจ้าหน้าที่ส่งแลกเปลี่ยนกัน ก็พบว่ามีบางคนหารือกันอย่างเปิดเผยว่า จะปิดบังเรื่องการจัดงานเลี้ยงของพวกเขาไม่ให้สื่อรู้
...
ด้านนายจอห์นสันกล่าวในสภาผู้แทนราษฎรหลังจากรายงานฉบับนี้ถูกเผยแพร่ออกมา ว่า เขาได้รับบทเรียนจากเรื่องนี้แล้ว และจะรับผิดชอบต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นภายใต้การดูแลของเขา อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรยังแก้ตัวด้วยคำเดิมว่า งานเลี้ยงคึกคักมากขึ้นหลังจากเขากลับไปแล้ว และยืนยันว่า เขาก็ตกใจและผิดหวังเช่นกันที่เกิดงานเลี้ยงดื่มสุราขึ้นหลายงาน
นายจอห์นสันยังปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า เขาโกหกรัฐสภาเรื่องการจัดปาร์ตี้ดังกล่าว แต่ยอมรับว่าเขาพูดไม่ถูกต้องที่บอกสภาว่า มีการทำตามกฎควบคุมโควิด-19 ตลอดเวลา
ทั้งนี้ การพิสูจน์ว่านายจอห์นสันตั้งใจโกหกสภาหรือไม่นั้นกลายเป็นประเด็นสำคัญในคดีซึ่งถูกเรียกว่า ‘ปาร์ตีเกต’ (Partygate) นี้ เนื่องจากเขาอาจถูกถอดจากตำแหน่งหากพบว่ากระทำผิดจริง ขณะที่มี ส.ส. 17 คนแล้วที่ออกมาเรียกร้องให้นายจอห์นสันลาออก ซึ่งพวกเขาต้องการ ส.ส.อย่างน้อย 54 เสียงเพื่อเริ่มกระบวนลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี