สงครามยูเครนยืดเยื้อมาหลายเดือน กองทัพอากาศยูเครนแทบไม่มีเครื่องบินไปสู้ จนถึงกับเปิดระดมทุนและขอรับบริจาค ขณะที่ความช่วยเหลือจากตะวันตกยังมีตลอด โดยสนับสนุนอาวุธทันสมัย จนรัสเซียเริ่มชะงัก
สงครามในยูเครนดำเนินมากว่า 2 เดือนหลังจากกองทัพรัสเซียย่านตราทัพเข้ารุกรานจากกำลังทหารภาคพื้นดิน รถถังและยานเกราะนานาชนิดจากภาคตะวันออกและการโจมตีทางอากาศจากทางเหนือ และภาคใต้ที่มีการสนับสนุนจากกำลังทางบกและทางเรือ เพื่อเข้ายึดแคว้นโดเนสก์และลูฮานส์ รวมทั้งเมืองท่าและเมืองอุตสาหกรรมสำคัญอย่างเมืองมาริอูโปล ที่กำลังทหารรัสเซียยังยึดพื้นที่ไว้ได้อย่างเด็ดขาด แม้จะยังพบกับการต่อต้านจากทหารราบภาคพื้นดินของยูเครน ที่ได้รับการสนับสนุนอาวุธทันสมัยจากชาติตะวันตก
ขณะนี้ แผนการบุกของรัสเซียไม่เป็นไปตามแผน ไม่ว่าจะเป็นการบุกกรุงเคียฟ ที่ยังเข้าไปยึดไม่ได้ และพบการต้านทานอย่างหนักจนเกิดความสูญเสียไปไม่น้อย อีกทั้งที่เมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่ทางตอนเหนือที่มีขนาดรองจากกรุงเคียฟ ที่ก่อนหน้านี้รัสเซียโจมตีอย่างหนักและยึดครองไว่ได้ ล่าสุดทางกองทัพยูเครนก็ได้ตอบโตและตามยึดคืนได้บางส่วน รวมทั้งกองทัพทางใต้ที่ต่อต้านกำลังทางเรือของรัสเซีย ที่ปฏิบัติการในทะเลดำ ด้วยการจมเรือธงของรัสเซีย นั่นคือเรือรบมอสควา ด้วยขีปนาวุธต่อต้านเรือที่ยูเครนผลิตขึ้นเอง
...
แต่เมื่อมองด้านกำลังทางอากาศ ที่กองทัพอากาศยูเครน รับผิดชอบในการป้องกันภัยทางอากาศทั้งจากอากาศยานและขีปนาวุธรัสเซีย แม้ปรากฏว่าช่วงแรกของสงคราม ยูเครนส่งเครื่องบินรบออกปฏิบัติการ แต่ 2 เดือนที่ผ่านมาแทบไม่มีข่าวเครื่องบินรบยูเครนเข้าทำการรบกับรัสเซียเลย มีแต่ผลงานของหน่วยป้องกันภัยทางอากาศ และทหารราบที่จัดการสอยเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซีย รวมทั้งสกัดขีปนาวุธและโดรนลาดตระเวน ทำให้ตรงกับที่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่า เครื่องบินรบของยูเครนส่วนมากถูกทำลายหรืออยู่ในสภาพไม่พร้อมบินแล้ว ทั้งซู-27 แฟลงก์เคอร์และ มิก-29 ฟัลครัม ที่เป็นกำลังหลัก โดยตรงกับที่ทางกองทัพอากาศยูเครน ร้องขอบริจาคเครื่องบินมิก-29 จากกลุ่มประเทศอดีตวอร์ซอว์แพ็ก ทั้งโปแลนด์ ฮังการี เพื่อนำมาใช้งานทดแทนเครื่องบินที่สูญเสียไป โดยประเทศเหล่านี้มีเครื่องบินมิก-29 ใช้งาน และบางส่วนกำลังจะเลิกใช้ เพราะหันไปใช้งานเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ แทน ซึ่งการได้มิก-29 มา นักบินยูเครนไม่ต้องฝึกบินเพิ่ม สามารถใช้งานได้ทันที
แผนการขอ มิก-29 จากโปแลนด์ ไม่สำเร็จ
เมื่อต้นเดือน มี.ค.2565 ทางการโปแลนด์ยื่นข้อเสนอมอบมิก-29 จำนวน 28 ลำให้กับยูเครน แต่ต้องเป็นการมอบผ่านสหรัฐฯ ที่ฐานทัพอากาศในเยอรมนี โดยการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ จะมอบเครื่องบินมือสองให้กับโปแลนด์ทดแทนกันแต่สุดท้ายข้อตกลงก็ไม่ได้รับการตอบสนองจากสหรัฐฯ ทำให้ข้อตกลงล่มไป เนื่องจากอย่างไรก็ตาม กระทรวงกลาโหมและเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของสหรัฐฯ ประเมินว่า การมอบเครื่องบินมิกไปยังยูเครน ไม่ได้เปลี่ยนแปลงประสิทธิภาพของกองทัพอากาศยูเครนอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อเทียบกับความสามารถของรัสเซีย ที่ยังเหนือกว่าในการครองอากาศ
ด้านได้อายก็อด ยูเครนเปิดระดมทุน เพื่อให้ได้มาซึ่งอาวุธป้องกันประเทศ
แม้ชวดเครื่องบินมิก-29 จากโปแลนด์ แต่ยูเครนเดินแผนต่อไปคือ การดึงนาโตให้เข้าร่วม โดยการร้องขอให้นาโตประกาศให้น่านฟ้ายูเครนเป็นเขตห้ามบิน แต่นั่นก็เป็นการผูกมัดนาโตให้ร่วมเข้าสงครามกับรัสเซียโดยตรง ซึ่งขัดกับท่าทีของนาโตที่ยังสงวนท่าทีในสงครามยูเครน โดยทางประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ก็ยังคงเดินหน้าเรียกร้องชาติพันธมิตรนาโตส่งความช่วยเหลือให้กับยูเครน โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่แบบที่ยูเครนมีใช้ หรือจะให้เครื่องบินขับไล่ของชาติตะวันตกก็ได้ ทางการยูเครนยอมจ่ายหากได้ราคาที่รับได้
ทางการยูเครนเปิดระดมทุนจากคนทั่วโลก เพื่อหางบประมาณในการสนับสนุนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ แต่กระบวนการในการขายอาวุธให้กับยูเครนมันไม่ง่ายดายอย่างที่คิดกันในเวลานี้ แม้ว่าจะมีหลายประเทศมีเครื่องบินแบบที่ยูเครนต้องการ หรือถ้ายูเครนมีเงินพอการอนุมัติขายให้ก็ไม่สิ่งที่จะใช้เวลาปุบปับขายให้ได้
แคมเปญซื้อเครื่องบินให้หน่อย
...
เมื่อเร็วๆ นี้ ทางการยูเครนได้ทำคลิป แคมเปญ “Buy me a fighter jet!” ที่ในคลิปเป็นภาพของนักบินยูเครนยืนกำหมัดแน่นท่ามกลางซากเครื่องบินมิก-29 ที่ถูกทำลายบนพื้น พร้อมกล่าวในคลิปว่า “ช่วยฉันปกป้องท้องฟ้าของฉัน เต็มไปด้วยเครื่องบินรัสเซียที่ทิ้งระเบิดที่ดินแดนของฉัน ฆ่าเพื่อนของฉัน มันทำลายบ้านของเรา และทุกสิ่งที่ฉันเคยรู้จัก แล้วพูดด้วยว่า "มอบปีกให้เราต่อสู้เพื่อท้องฟ้าของเรา"
บนเว็บไซต์ของโครงการ #buymeafighterjet ประมาณการราคาเฉลี่ยของเครื่องบินที่ 25 ล้านดอลลาร์ ซึ่งขึ้นอยู่กับการตีความ มีรายชื่อเครื่องบินขับไล่ที่กองทัพอากาศยูเครนใช้อยู่ในปัจจุบัน ได้แก่ ซู-25, ซู-27, ซู-24 และ มิก-29 สำหรับ มิก-29 ลำใหม่ มูลค่าอยู่ที่ราว 25 ล้านดอลลาร์ แต่ ซู-27 Flanker มีราคาถึง 40 ล้านดอลลาร์
มุ่งเป้าใหม่ #ArmUkraineNow อยากได้เครื่องบินมือ 2 จากสหรัฐฯ
เว็บไซต์ดังกล่าวยังมีการกล่าวอ้างที่เกินจริงว่า นักบินชาวยูเครนจะสามารถ “ควบคุมท้องฟ้าของเราได้อย่างรวดเร็ว และจะประสบความสำเร็จในการปกป้องท้องฟ้าด้วยเครื่องบินต่อไปนี้ JAS-39 Gripen ของสวีเดน, Rafale ของฝรั่งเศส, เอฟ-15, เอฟ-16, เอฟ/เอ-18, เอฟ-22, เอฟ-35 ของสหรัฐอเมริกา โดยเป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่สมจริง และไม่ใช่เรื่องง่าย ที่นักบินสามารถฝึกบินเครื่องบินที่ไม่คุ้นเคยได้อย่างรวดเร็ว จนสามารถเป็นนักบินพร้อมรบได้ หรือหากต้องบินก็จำเป็นจะต้องมีครูฝึกบินช่วยเหลือพวกเขาในระยะเวลาพอสมควร
...
นอกจากนี้เครื่องบินรบที่ผลิตโดยชาติตะวันตกมีราคาแพง และเทคโนโลยีซับซ้อนกว่าเครื่องบินรบที่ยูเครนใช้งานอยู่เช่นกัน โดยเฉพาะเครื่องบินล้ำยุค เช่น เอฟ-22 และ เอฟ-35 นั้นเป็นเรื่องเหลวไหลอย่างยิ่ง แต่มันจะไม่สมจริงอย่างยิ่งที่ประเทศอย่างสหรัฐอเมริกา จะถ่ายโอนเทคโนโลยีทางทหารชั้นสุดยอดประเภทใดๆ เหล่านี้ให้กับชาติอื่น อย่างไรก็ตาม บางทีแผนภูมิรายละเอียดที่แสดงบนเว็บไซต์ดังกล่าว อาจจะเป็นเพียงรายการที่อยากได้ เช่น ประเภทของเครื่องบิน ตำแหน่งและความพร้อมใช้งานนั้นเชื่อมโยงกัน แม้ว่าแหล่งที่มาของตัวเลขจะไม่ชัดเจน
พันเอกยูริ บูลาวกา นักบินขับไล่ชั้น 1 ซู-27 แฟลงก์เคอร์ ทอ.ยูเครน กล่าวในคลิป ArmUkraineNow ว่า ฉันเป็นผู้ชนะการแสดงทางอากาศในแอร์โชว์ไม่กี่รายการในยุโรป แสดงให้เห็นถึงจำนวนของนักบินที่มีความสามารถสูงในการบินกับ ซู-27 เพื่อนและที่ปรึกษาของผม คือ นักบินในตํานานผู้พัน อเล็กซานเดอร์ อ็อกซานเชนโก้ (Alexander Oksanchenko) หรือ หมาป่าสีเทา ที่ก่อนหน้านั้นเป็นตัวแทนของยูเครนในการแสดงการบินตามแอร์โชว์ทั่วยุโรป และได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ เหนือน่านฟ้าของกรุงเคียฟ แม้แต่นักบินที่ความสามารถสูงระดับนี้ ก็ไม่ช่วยให้รอดจากขีปนาวุธของผู้บุกรุกได้
...
นักบินขับไล่ชั้น 1 ซู-27 ทอ.ยูเครน กล่าวด้วยว่า เราต้องการเครื่องบินที่ทันสมัยมากขึ้น เพื่อต่อต้านศัตรูที่รุกล้ำน่านฟ้า โดยเฉพาะเครื่องบินของอเมริกัน อย่าง เอฟ-16 หรือ เอฟ-15 และบางทีอาจเป็น เอฟ/เอ-18 ก็เพียงพอที่จะนำมาใช้งาน เพราะเครื่องบินทั้งหมดนี้มีเรดาร์ตรวจจับที่ทรงพลัง อุปกรณ์เทคโนโลยี และที่สําคัญที่สุดคือ อาวุธปล่อยนำวิถีที่ทันสมัย เรามีแผนปฏิบัติการที่จะฝึกนักบินและเจ้าหน้าที่วิศวกรรมการบินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทําได้ เพื่อที่จะทําให้เทคนิคนี้ชํานาญอย่างรวดเร็ว ต้องตัดสินใจตอนนี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป
คาดการณ์ปัจจุบันและความเป็นได้ต่อจากนี้
ในมุมมองของผู้เขียน แม้ว่ากองทัพอากาศยูเครน จะไม่ได้รับความช่วยเหลือในเรื่องเครื่องบินรบจากชาติตะวันตกในเวลานี้ ด้วยข้อจำกัดมากมาย แต่การปฏิบัติงานที่ผ่านมา ทอ.ยูเครนสร้างผลงานได้น่าประทับใจในการตอบโต้รัสเซีย ด้วยการใช้ อากาศยานไร้นักบินที่ Bayraktar TB2 ที่จัดหามาก่อนหน้าจะเกิดสงคราม โดยได้โจมตีใส่เป้าหมายทั้งยานเกราะรถถัง เรือตรวจการณ์ ที่มั่นทางทหาร บังเกอร์ และสร้างความเสียหายได้อย่างมาก ถือเป็นการเปิดเกมโต้กลับที่สร้างแรงกดดันให้ผู้รุกรานต้องชะงักและล่าถอยได้
ในขณะที่ การป้องกันภัยทางอากาศ หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากชาติพันธมิตรนาโต ทั้งการรับมอบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานระยะไกลแบบ S-300 จากสโลวะเกีย เพื่อเสริมกำลังหน่วยยิงขีปนาวุธที่ยังวางไว้ปกป้องกรุงเคียฟ จากขีปนาวุธพื้นสู่พื้นขจองรัสเซียที่ยิงถล่มเมืองต่างๆ เช่น ขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ที่ยิงจากเรือรบในทะเลดำ ขีปนาวุธ 9K720 ของรัสเซียที่ยิงจากหน่วยยิงเคลื่อนที่ โดยที่มีการคาดการณ์ว่าอาจมีการเตรียมหัวรบนิวเคลียร์ไว้ใช้ด้วย
นอกจากนี้ยูเครนยังมี ของเก่าจากสมัยสหภาพโซเวียตที่เหลือ อย่าง ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานประทับบ่ายิง (MANPADS) แบบนำวิถีด้วยครวามร้อนแบบ SA-7 Grail (แซม-7) และ SA-14 Gremlin (แซม-14) ขณะเดียวกันก็ยังได้รับขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานประทับบ่ายิงจากสหรัฐฯ อาทิ สติงเกอร์ (FIM-192) และ สตาร์สตรีค (Starstreak) ของอังกฤษ ที่นับว่าเป็นระบบที่ทันสมัยที่สุด มีการนำวิถีด้วยการชี้เป้าด้วยเลเซอร์ รวมทั้ง ระบบ Grom และ Piorun ของโปแลนด์ ที่ถอดแบบมาจากขีปนาวุธแบบ แซม-7 และแซม-14 ใช้ต่อต้านอากาศยานปีกหมุนแและโดรน รวมทั้งเครื่องบินโจมตีของรัสเซียที่บินมาต่ำ แม้แต่เครื่องบินรบรุ่นใหม่อย่าง ซู-34 ก็พลาดท่าถูกสอยตกมาแล้ว
จับตาไอเทมเด็ดๆ จากตะวันตกจะส่งไปยูเครน
ผู้เขียนเชื่อว่าต่อจากนี้ชาติตะวันตกและนาโต จะเดินหน้าให้การช่วยเหลือยูเครนต่ออีกทั้ง อาวุธยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์สนาม อาจมีการส่งโดรนฆ่าตัวตายให้เพิ่ม รวมทั้ง ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบประทับบ่ายิง ขีปนาวุธและจรวดต่อต้านรถถัง รวมทั้งอาวุธปล่อยนำวิถีนำวิถี บริมสโตน 2 (Brimstone 2) ที่ล่าสุดทวิตเตอร์ Ukraine Weapons Tracker (@UAWeapons) ได้ทวิตภาพที่อ้างว่า มีการพบการใช้งาน อาวุธปล่อยนำวิถีนำวิถี บริมสโตน 2 ในสงครามยูเครน หลังมีลูกมิสไซล์ที่ไม่ระเบิดถูกพบที่เมืองซาปอริซเซีย (Zaporizhzhya) คาดว่าอังกฤษส่งมอบให้ยูเครนใช้ต่อต้านเรือผิวน้ำของรัสเซียนอกชายฝั่ง
ในด้านกำลังภาคพื้นดิน นอกจากบรรดาอาวุธต่อสู้รถถังและขีปนาวุธนำวิถีต่างๆ ก็อาจจะมีการส่งยานเกราะ รวมทั้งรถถังที่เหลือใช้จากประเทศอดีตสหภาพโซเวียตให้กับยูเครน โดยที่น่าจับตา คือ รถถังหลัก ที-72 และรถถังหลัก เลพเพิร์ด 1 ที่ไม่ได้ใช้งานแล้วของเยอรมนี ยานยนต์ทางยุทธวิธีจากอังกฤษ ปืนใหญ่สนาม เอ็ม777 โฮวิซเซอร์ ขนาด 155 มม. ที่เริ่มส่งไปยังยูเครนแล้ว เพื่อใช้เป็นอาวุธหนักยิงต่อสู้กับรัสเซีย รวมทั้ง เฮลิคอปเตอร์ มิ-17 ที่สหรัฐฯ ซื้อไว้เดิมจะมอบให้อัฟกานิสถานแต่ไม่ได้มอบให้ เพื่อที่จะไปทดแทนเฮลิคอปเตอร์ มิ-24 ไฮนด์ ของยูเครนที่เก่าและขาดอะไหล่ แต่จะมีอะไรมากกว่านี้อีกหรือไม่ต้องจับตาต่อไป...
ผู้เขียน : จุลดิส รัตนคำแปง
ที่มาข้อมูลและรูปภาพ : เฟซบุ๊ก Air Force Command of UA Armed Forces , เว็บไซต์ The Drive, เว็บไซต์ The WarZone, เว็บไซต์ aviacionline, เว็บไซต์ BBC NEWS