ประธานาธิบดีศรีลังกาประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน เพื่อควบคุมการประท้วงต้านรัฐบาลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่มีนาคม
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดี โกตาบายา ราชปักษา แห่งประเทศศรีลังกา ประกาศภาวะฉุกเฉินรอบใหม่เมื่อหลังเที่ยงคืนวันศุกร์ที่ 6 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา หลังจากเกิดการประท้วงตามท้องถนนมาตั้งแต่เดือนมีนาคม เนื่องจากไม่พอใจรัฐบาลที่แก้วิกฤติเศรษฐกิจไม่ได้ จนทำให้สินค้าอุปโภคบริโภคขาดแคลน
รัฐบาลยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อบังคับของมาตรการภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ แต่คำสั่งที่ศรีลังกาเคยใช้ก่อนหน้านี้ จะมอบอำนาจให้ประธานาธิบดีมากขึ้นในการเคลื่อนกองทัพ รวมถึงจับกุมประชาชนโดยไม่ต้องตั้งข้อหาและสลายการชุมนุมได้
การประกาศภาวะฉุกเฉินทำให้บรรยากาศในกรุงโคลัมโบเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์เป็นไปอย่างเงียบสงบ หลังจากเมื่อวันศุกร์เพิ่งเกิดการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วง ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ผู้ชุมนุมเพื่อสกัดไม่ให้พวกเขาเข้าใกล้อาคารรัฐสภา
อย่างไรก็ตาม มีประชาชนราว 100 คน มารวมตัวกันฟังปราศรัยของผู้ชุมนุมที่จุดประท้วงหลักใกล้อาคารรัฐสภา โดยรถที่ผ่านไปมาบีบแตรเพื่อแสดงการสนับสนุน ก่อนที่ช่วงกลางคืนจะมีกลุ่มพระสงฆ์ออกมาร่วมชุมนุมประท้วงที่หน้าทำเนียบประธานาธิบดีด้วย
...
ทั้งนี้ ศรีลังกาได้รับผลกระทบอย่างหนักทางจากการระบาดของโควิด-19, ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น และการหั่นภาษีของรัฐบาล ทำให้พวกเขาแทบไม่เหลือเงินตราต่างประเทศสำรอง เพื่อสินค้าอุปโภคบริโภคอย่างอาหาร, เชื้อเพลิง และของจำเป็นอื่นๆ ส่งผลให้ราคาพุ่งสูง สร้างความไม่พอใจแก่ประชาชน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายอาลี ซาบรี รัฐมนตรีคลังของศรีลังกาออกมายอมรับว่า เงินต่างประเทศสำรองที่ใช้ได้ของพวกเขาเกือบหมดแล้ว โดยตอนนี้เหลือเพียง 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งศรีลังกากำลังขอเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากกองทุนการเงินต่างประเทศ (IMF) แต่ต้องใช้เวลานานนับเดือน.