หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดา ยกเลิกกฎห้ามชายรักชายบริจาคเลือดหลังมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยุติหนึ่งในกฎหมายเก่าซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ากีดกันคนรักเพศเดียวกัน

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขแคนาดา ประกาศในวันพฤหัสบดีที่ 28 เม.ย. 2565 ยกเลิกกฎที่ห้ามชายรักชายบริจาคเลือดภายใน 3 เดือนหลังจากมีเพศสัมพันธ์กันแล้ว โดยยกเป็นหลักไมล์สำคัญไปสู่ระบบบริจาคโลหิตที่ครอบคลุมมากขึ้น

การยกเลิกกฎดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ก.ย. หมายความว่า หลังจากนั้นเป็นต้นไป ผู้บริจาคโลหิตจะไม่ถูกถามเกี่ยวกับรสนิยมทางเพศระหว่างกระบวนการคัดกรองผู้บริจาคแล้ว แต่จะถามว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมทางเพศที่มีความเสี่ยงสูงใดๆ หรือไม่แทน

ทั้งนี้ แคนาดาเริ่มบังคับใช้กฎนี้ในปี 2535 เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อเอชไอวีเข้าสู่คลังเลือดบริจาค หลังจากเกิดเหตุอื้อฉาวครั้งใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 80 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีกว่า 2,000 รายและติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ ซี อีกกว่า 60,000 จากโลหิตบริจาคที่ปนเปื้อนเชื้อ เพราะความล้มเหลวในการตรวจสอบ

ในช่วงแรกกฎรุนแรงมาก ถึงขั้นห้ามผู้ชายที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายบริจาคเลือดตลอดชีวิต ก่อนจะผ่อนคลายกฎให้กลับมาบริจาคเลือดได้อีกครั้งหลังจากงดเว้นการมีเพศสัมพันธ์รูปแบบดังกล่าว 5 ปี และ 3 เดือนตามลำดับ กระทั่งสำนักงานบริการโลหิตแคนาดา ยื่นเรื่องเมื่อปีก่อน ให้กระทรวงสาธารณสุขยกเลิกกฎนี้

แคนาดาเจริญรอยตามหลายประเทศที่ยกเลิกกฎแบบเดียวกันไปก่อนหน้านี้ รวมถึงสหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, กรีซ, อิสราเอล, ฮังการี, เดนมาร์ก และบราซิล ขณะที่สหรัฐฯ ลดเกณฑ์บริจาคของชายรักชายลงจาก 1 ปีหลังงดมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย เหลือ 3 เดือนเมื่อตุลาคม 2563 เพื่อแก้ปัญหาโลหิตขาดแคลนเพราะการระบาดของไวรัสโควิด-19

...