สองผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง และนางมารีน เลอเปน ต่างเดินหน้าหาเสียงอย่างหนักก่อนการเลือกตั้งรอบที่ 2 ที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์นี้
เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง จากพรรคจากพรรคอองมาร์ช (La Republique en Marche) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองสายกลาง ได้ออกตระเวนหาเสียงพบปะชนชั้นแรงงาน และกลุ่มผู้อพยพ และผู้ที่มีรากเหง้ามาจากผู้อพยพ ในจังหวัดแซน แซ็ง เดอนี ทางตอนเหนือของกรุงปารีส เพื่อโน้มน้าวใจบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่นิยมฝ่ายซ้ายให้หันมาลงคะแนนให้เขา เพื่อให้เขาได้กลับมาบริหารประเทศต่อเป็นสมัยที่ 2 โดยเมืองนี้ยังเป็นฐานเสียงของนายฌอง ลุก ผู้สมัครฝ่ายซ้ายจัด ที่ได้ลำดับ 3 ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรก

นายมาครงกล่าวว่า เขาตัดสินใจเลือกจังหวัดแซน แซ็ง เดอนี เป็นสถานที่ปิดแคมเปญหาเสียง ก็เพื่อสะท้อนถึงสถานการณ์ความยากลำบากของประชาชนที่นี่ซึ่งมีความหลากหลายทางเชื้อชาติและศาสนา พร้อมกันนี้นายมาครงย้ำเตือนให้ทุกคนอย่าวางเฉยกับการผงาดขึ้นมาของแนวคิดพวกนิยมฝ่ายขวาจัด
...

ด้านนางเลอเปน ปิดฉากแคมเปญหาเสียงเป็นสถานที่สุดท้ายในเมืองอาร์รัส ทางตอนเหนือของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นฐานเสียงสำคัญของพรรคฝ่ายซ้าย เนชั่นแนล แรลลี่ ของเธอ โดยโจมตีนายมาครงว่ายังคงวางเฉยกับความทุกข์ร้อนของประชาชนและยังทำตัวเย่อหยิ่ง หลังจากเธอถูกนายมาครงกล่าวโจมตีอย่างหนักระหว่างการดีเบตว่า มีสายสัมพันธ์กับผู้นำรัสเซีย และเป็นคนพรากสิทธิในการสวมผ้าคลุมหน้าของชาวมุสลิมในฝรั่งเศส

ขณะที่โพลล่าสุดชี้ว่า นายมาครงยังคงมีคะแนนนำนางเลอเปน มีโอกาสชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยผลการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จัดทำโดย OpinionWay/Kea Partners ระหว่างวันที่ 20-21 เมษายน ระบุว่า นายมาครงจะชนะการเลือกตั้ง ด้วยคะแนนเสียง 56% ของผู้ลงคะแนนที่จะไม่เปลี่ยนใจไปเลือกนางเลอเปนแน่นอน ขณะที่คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนออกไปใช้สิทธิเพียง 72% เป็นตัวเลขคนออกมาเลือกตั้งต่ำที่สุดในรอบ 53 ปี