- มอสควา เรือลาดตระเวนติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี และเป็นเรือธงแห่งกองทัพเรือทะเลดำของรัสเซีย ซึ่งกำลังร่วมในการโจมตียูเครนอยู่ตอนนี้ อับปางแล้ว หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนัก
- รัสเซียกับยูเครนให้ข้อมูลต่างกันเรื่องสาเหตุที่ทำให้มอสควาได้รับความเสียหาย โดยเคียฟอ้างว่า พวกเขาเป็นฝ่ายยิงขีปนาวุธเข้าโจมตี ขณะที่มอสโกระบุว่าเป็นเพราะไฟไหม้
- ฝ่ายยูเครนอ้างอีกว่า ขีปนาวุธที่พวกเขาโจมตีคือ จรวดร่อน เนปจูน มิสไซล์ ที่พวกเขาพัฒนาขึ้นมาใหม่ หลังจากรัสเซียยึดดินแดนไครเมียเมื่อ 8 ปีก่อน
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. 2565 มีข่าวที่สร้างความตกตะลึงให้แก่กองทัพรัสเซีย เมื่อเรือรบ “มอสควา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของกองทัพเรือรัสเซียในทะเลดำ อับปางแล้ว หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักแก่เรือธงลำนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ฝ่ายรัสเซียระบุว่า เกิดไฟไหม้บนเรือไปติดที่คลังเก็บกระสุนจนเกิดระเบิด ขณะที่ฝ่ายยูเครนอ้างว่า พวกเขาเป็นผู้ยิงเรือลำนี้ด้วยมิสไซล์ “เนปจูน” จรวดรุ่นใหม่ที่พัฒนาขึ้นหลังจากแคว้นไครเมียถูกยึดเมื่อ 8 ปีก่อน
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การสูญเสียเรือซึ่งตั้งชื่อตามเมืองหลวงของรัสเซียลำนี้ จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อขวัญกำลังใจของทหารรัสเซีย และลดอำนาจการโจมตีทางทะเลในทะเลดำ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาวุธหลักของรัสเซียในการโจมตียูเครนลงอย่างมาก
“มอสควา” เรือธงแห่งกองเรือทะเลดำรัสเซีย
“มอสควา” (Moskva) หรือชื่อเดิมคือ “สลาวา” (Slava) เป็นเรือธงของกองเรือทะเลดำแห่งกองทัพเรือรัสเซีย เป็นเรือลาดตระเวนชั้นสลาวา ความยาว 186 ม. น้ำหนัก 11,500 ตัน สร้างเสร็จและเปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2522 จากอู่ต่อเรื่องในประเทศยูเครน ซึ่งตอนนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต
เรือลำนี้ติดอาวุธเป็นจรวดร่อนต่อต้านเรือรบ “วัลแคน” จำนวน 16 ลูก มีพิสัยโจมตีอย่างน้อย 700 กม. ทำให้สมารถโจมตีได้ทุกพื้นที่ในยูเครน นอกจากนั้นยังติดตั้งระบบต่อต้านอากาศยาน เอส-300, อาวุธต่อต้านเรือดำน้ำ และทุ่นระเบิดแบบตอร์ปิโดไว้บนเรือด้วย
นายไมเคิล ปีเตอร์เซน จากสถาบันศึกษาทางทะเลรัสเซีย บอกกับบีบีซี ว่า มอสควาเป็น สัญลักษณ์แห่งอำนาจของกองทัพเรือรัสเซียในทะเลดำ และยังเป็นสิ่งที่สร้างความลำบากให้ยูเครนมาตลอด นับตั้งแต่การรุกรานของรัสเซียเริ่มขึ้นเมื่อ 24 ก.พ. และเห็นเรือลำนี้ถูกทำลายจะช่วยสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารยูเครนอย่างมาก
ก่อนที่จะมาเข้าร่วมสงครามในยูเครน มอสควา เคยนำกองทัพเรือรัสเซียในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างปฏิบัติการทางทหารในซีเรียเมื่อปี 2558 ก่อนจะเข้ารับการซ่อมบำรุงตามกำหนดการในปี 2561 และกำลังมาปฏิบัติการได้อีกครั้งในเดือนธันวาคม 2563 โดยเมื่อปีก่อน วิกตอร์ คราฟเชนโก อดีต ผบ.ระดับสูงของกองทัพเรือรัสเซีย ยกให้เรือลำนี้ เป็นเรือที่อันตรายที่สุดในทะเลดำ
...

ยูเครนโว ยิงมิสไซล์โดนมอสควา
ทางการยูเครนออกมาอ้างว่า พวกเขาเป็นผู้โจมตีเรือ มอสควา โดยส่งโดรน “บายรัคตาร์” (Bayraktar) ซึ่งผลิตโดยตุรกี ไปจัดการระบบเรดาร์ของเรือก่อน ก่อนจะยิงจรวดร่อนรุ่นใหม่นามว่า “เนปจูน” เข้าโจมตี ซึ่งถูกเป้าหมาย 2 ครั้ง สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ เรือธงของกองเรือรบรัสเซียลำนี้
เจ้าหน้าที่ยูเครนโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ก่อนที่ทางการรัสเซียจะเปิดเผยเรื่องเรือจมด้วยว่า ปฏิบัติการกู้ภัยของรัสเซียกำลังเผชิญกับความยากลำบาก เนื่องจากการระเบิดของเครื่องกระสุนบนเรือ และสภาพอากาศอันเลวร้าย
ด้านสหรัฐฯ ไม่ฟันธงว่า เรือมอสควาถูกโจมตีด้วยจรวดของยูเครนจริงหรือไม่ แต่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ บอกกับซีเอ็นเอ็นว่า “มีความเป็นไปได้”
รัสเซียอ้าง เรือล่มหลังไฟไหม้
ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า เกิดไฟไหม้บนเรือไปลามไปติดเครื่องกระสุนจนเกิดการระเบิด สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง แต่ลูกเรือกว่า 510 คนได้รับการอพยพออกมาอย่างปลอดภัย ส่วนสาเหตุของไฟไหม้กำลังอยู่ระหว่างการสืบสวน แต่พวกเขาไม่ระบุถึงการโจมตีใดๆ จากยูเครน
ในตอนแรก เจ้าหน้าที่รัสเซียยืนยันว่า สามารถควบคุมเพลิงไหม้บนเรือนได้แล้ว และเครื่องกระสุนก็ไม่ระเบิดอีกต่อไป โดยเรือของกองทัพกำลังลากเรือมอสควาเข้าสู่ท่าเรือที่กำหนด แต่ต่อมา กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์อีกฉบับ ยืนยันว่า เรือธงลำนี้ล่มแล้ว เนื่องจากถูกสภาพคลื่นลมทำให้เรือเสียการทรงตัว

มิสไซล์เนปจูน อาวุธใหม่ของยูเครน
เจ้าหน้าที่กองทัพยูเครนอ้างว่า จรวดที่พวกเขาใช้ในการโจมตีเรือรบมอสควา ของรัสเซียคือ มิสไซล์ “เนปจูน” เป็นจรวดร่อน หรือ ครูสมิสไซล์ ประเภทต่อต้านเรือรบที่วิศวกรยูเครนเป็นผู้ออกแบบเอง เพื่อตอบโต้ภัยคุกคามทางทะเลจากรัสเซียที่เพิ่มสูงขึ้นหลังจากดินแดนไครเมียของพวกเขาถูกรัสเซียผนวกรวมเป็นของตัวเองเมื่อปี 2557
มิสไซล์ เนปจูน มีระยะการโจมตีราว 300 กม. ติดตั้งหัวรบระเบิดแรงสูงน้ำหนักมากสุดถึง 150 กก. ประจำการเข้าสู่กองทัพยูเครนเมื่อเดือนสิงหาคม 2563 แต่อาวุธลอตแรกเพิ่งถูกส่งมอบให้แก่กองทัพเรือเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : BBC , DW
...