- นักวิทย์กำลังจับตา โอมิครอน XE มากขึ้น หลัง UK พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่กว่า 1.1 พันราย ท่ามกลางการหวนกลับมาระบาดของโควิด-19
- ผู้เชี่ยวชาญคาดความรุนแรงของโอมิครอน XE อาจลดลง ในขณะที่สามารถแพร่ติดเชื้อได้เร็วกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2 แต่ถึงอย่างไร ขณะนี้ก็ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปศักยภาพของโอมิครอนลูกผสม XE
- ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XE รายแรก เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะเมื่อ 26 มี.ค. 65 แต่ผลการตรวจสอบยืนยันเพิ่งออกมาว่าเป็นโอมิครอน XE
การหวนกลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในสหราชอาณาจักร (UK) ทำให้นักวิทยาศาสตร์กำลังเฝ้าจับตามองเชื้อโควิด-19 โอมิครอนลูกผสม XE ด้วยความกังวลมากขึ้นกว่าเดิม ในฐานะที่โอมิครอน XE เป็น 'ทายาท' ของเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ย่อย BA.1 กับ BA.2 ที่ขึ้นชื่อในเรื่องการแพร่ติดเชื้อได้เร็ว และกำลังเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลกในเวลานี้
โอมิครอน XE กำลังระบาดใน UK
ตามรายงานของสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่าตรวจพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XE เพิ่มขึ้นเป็น 1,125 ราย ในระยะเวลาเพียง 10 วัน จากวันที่ 25 มี.ค. 2565 ซึ่งพบผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 637 ราย นับตั้งแต่สหราชอาณาจักรพบคนติดเชื้อโอมิครอน XE รายแรกเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์กำลังตั้งข้อสันนิษฐานว่าโอมิครอน XE อาจแพร่กระจายติดเชื้อวนเวียนในผู้คนเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว
นอกจากนั้น ขณะนี้ ยังพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน สายพันธุ์ลูกผสม XE แล้วทั้งในไทย, อินเดีย, อิสราเอล ส่วนในสหรัฐฯจนถึงวันที่ 12 เม.ย. ยังไม่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ XE

...
โอมิครอน XE เกิดขึ้นมาได้อย่างไร?
โอมิครอน XE รู้จักในชื่อ 'ดีเอ็นเอลูกผสม' ซึ่งเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ย่อย ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เมื่อมีผู้ป่วยคนหนึ่งติดเชื้อโควิด19 คนละสายพันธุ์ อาจเป็นสองชนิด หรือมากกว่านั้น ภายในเวลาเดียวกัน จนทำให้เชื้อโควิดมีการผสมผสานพันธุกรรมของพวกมันเข้าด้วยกันในร่างกายของผู้ป่วยรายนั้น
สำหรับกรณีของโควิดสายพันธุ์ลูกผสม XE เป็นการผสมผสานพันธุกรรมของเชื้อโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 ซึ่งอุบัติขึ้นตอนปลายปี 2564 กับ โอมิครอนสายพันธุ์ย่อยที่เกิดขึ้นใหม่กว่า คือ BA.2 ฉายา 'โอมิครอนล่องหน' ซึ่งตอนนี้กลายเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหราชอาณาจักร
ผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาระบุว่า การผสมผสานดีเอ็นเอของไวรัสเช่นนี้ ไม่ใช่เรื่องปกติ ซึ่งเชื้อโควิดได้มีการอุบัติขึ้นในลักษณะนี้หลายครั้งระหว่างการระบาดใหญ่ทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปศักยภาพของโอมิครอน XE ทั้งในเรื่องเกี่ยวกับความรุนแรงของอาการป่วย หรือความสามารถในการหลบหลีกวัคซีน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย.2565 สหราชอาณาจักรรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 41,469 ราย ซึ่งทำให้ช่วง 7 วันที่ผ่านมา พบผู้ติดเชื้อโควิดเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 59,578 ราย และยังดูเหมือนว่า เปอร์เซ็นต์ของผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ลูกผสม XE ยังเป็นสัดส่วนที่น้อยอยู่

ยังต้องจับตาศักยภาพของโอมิครอน XE
สำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร ระบุว่า โควิดมีอัตราการแพร่ติดเชื้อสูงกว่าโอมิครอน BA.2 อยู่ที่ 9.8% ในขณะที่องค์การอนามัยโลกระบุไว้อยู่ที่ 10% และคาดว่าโอมิครอน XE อาจเป็นเชื้อโควิด-19 ที่แพร่ติดเชื้อได้เร็วที่สุดกว่าโควิด-19 ทุกสายพันธุ์ที่เราเคยเห็นมา
อย่างไรก็ตาม บรรดาผู้เชี่ยวชาญคาดว่า เชื้อโอมิครอน XE อาจลดความรุนแรงลง ในขณะที่มันแพร่ติดเชื้อได้ง่ายขึ้นกว่าโอมิครอนสายพันธุ์พ่อแม่และขณะนี้ โอมิครอน XE ยังไม่ได้ถูกประกาศให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล

จาก UK ถึงญี่ปุ่น พบติดเชื้อโอมิครอน XE รายแรก
กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น แถลงพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน XE รายแรกในญี่ปุ่น เมื่อวันจันทร์ที่ 11 เม.ย. 65 เป็นผู้หญิงวัยประมาณ 30-39 ปี เดินทางมาถึงสนามบินนาริตะ ในวันที่ 26 มี.ค.ทว่า กระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นไม่ได้เปิดเผยสัญชาติของหญิงรายนี้ ซึ่งได้รับการฉีดวัคซีนสองเข็มของไฟเซอร์แล้ว และไม่แสดงอาการป่วย

...
ผู้เขียน : อรัญญา ศรีจันทรนิตย์
ที่มา : CNBC, Japantimes, TheConversation