หนุ่มชาวนิวยอร์กถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง หลังก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงชาวเอเชียถึง 7 ราย ในเวลาเพียง 3 ชั่วโมง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ผู้ต้องหารายนี้คือ นายสตีเวน ซา-ยองค์ วัย 28 ปี ที่ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงเชื้อสายเอเชียในนครนิวยอร์กถึง 7 คน ในช่วงเวลาเพียง 3 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 18.00-21.00 น. เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยก่อเหตุในพื้นที่หลายจุดทั้งในพื้นที่ฝั่งตะวันออก และตอนกลางของเกาะแมนฮัตตัน จนตำรวจต้องแกะรอยจากกล้องวงจรปิด และคำให้การของพยานที่เห็นเหตุการณ์ จนสามารถตามรวบตัวเขาได้เมื่อวันที่ 2 มีนาคมที่ผ่านมา โดยเขาถูกตั้งข้อหา ก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชังในระดับ 3 และข่มขู่คุกคามในระดับ 2
ทั้งนี้ ตำรวจระบุว่า นายซา-ยองค์ มีการเลือกเหยื่อทั้ง 7 ราย เฉพาะเจาะจงที่เป็นหญิงเชื้อสายเอเชีย โดยมีบางคนถูกทำร้ายร่างกายจากด้านหลัง นอกจากนี้เขายังมุ่งเป้าทำร้ายที่ใบหน้าของเหยื่อ โดยใช้ศอกและหมัดชกเข้าไปที่ใบหน้า ก่อนที่จะวิ่งหลบหนีไป ซึ่งนับเป็นการจงใจก่ออาชญากรรมจากความเกลียดชัง และแสดงออกถึงการต่อต้านชาวเอเชีย
อัลวิน แบร็คค์ อัยการเขตแมนฮัตตัน ระบุว่า ในเวลานี้เขากำลังสืบสวนคดีอาชญากรรมจากความเกลียดชังชาวเอเชียมากถึง 27 คดี โดยในเดือนกุมภาพันธ์มีคดีเกี่ยวกับการทำร้ายชาวเอเชียถึง 33 ครั้ง ซึ่งนับว่าเป็นจำนวนที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2010 ที่มีการตั้งหน่วยงานพิเศษดูแลเรื่องนี้ในแมนฮัตตันเป็นต้นมา โดยการทำร้ายชาวเอเชียเพิ่มสูงขึ้นมากในสหรัฐฯ ในช่วงปี 2020 หลังจากเริ่มพบการระบาดของเชื้อโควิด-19 เนื่องจากมีชาวอเมริกันบางกลุ่มที่ได้รับความเชื่อและอิทธิพลจากอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เรียกโรคระบาดนี้ว่า เป็นเชื้อไวรัสจีน.
...
ที่มา : แชนแนลนิวส์เอเชีย