หัวหน้าทีมสอบสวนอุบัติเหตุทางการบินของจีนเผย หอควบคุมการบินพยายามติดต่อ นักบินเครื่องบินโบอิ้ง 737 ไชน่า อีสเทิร์น หลังพบว่าเพดานบินตกลง แต่นักบินไม่ตอบกลับ
เมื่อ 23 มี.ค. 65 เดลี่เมลรายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ดิ่งตกกระแทกภูเขา ที่เมืองอู่โจว เขตปกครองตนเองกว่างซี ของจีน เมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 21 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตหมดทั้งลำ 132 ศพ และทีมสอบสวนจีนพบกล่องดำในบริเวณจุดที่เครื่องบินตกแล้วหนึ่งกล่อง
จากการเปิดเผยของนายจู เต๋า ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัยทางการบินของสำนักงานการบินพลเรือนของจีน แถลงข่าวเมื่อเย็นวันอังคารที่ผ่านมา ว่า เจ้าหน้าที่ประจำหอควบคุมการบินพยายามติดต่อนักบินหลายครั้ง หลังจากพบว่าเพดานบินของเครื่องบินลำนี้ตกวูบลงอย่างรวดเร็ว แต่นักบินไม่ตอบกลับมา
...
นายจู เต๋า กล่าวด้วยว่า การสอบสวนสาเหตุการตกของเครื่องบินโบอิ้ง 737 ได้หยุดพักชั่วคราวในวันนี้ (23 มี.ค.) หลังจากเกิดฝนตกในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ทีมสอบสวนจะทำงานอย่างสุดความสามารถในการเก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุและมุ่งค้นหากล่องดำกล่องที่สอง
ในขณะเดียวกัน มีการเผยแพร่ภาพถ่ายทางอากาศจากโดรน ที่แสดงให้เห็นบริเวณจุดที่เครื่องบินโบอิ้งตก เป็นหลุมขนาดใหญ่ บนภูเขา ในเขตเมืองอู่โจว
ทั้งนี้ เครื่องบินโบอิ้ง 737 ของสายการบินไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ ดิ่งตกในทิศทางเกือบเป็นแนวตั้ง กระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนไฟลุกท่วม ขณะนี้ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นเพราะอะไร? หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 737 ลำนี้ ได้ทะยานออกจากสนามบินคุนหมิง และบินในระดับเพดานบินตามปกติ ทว่าต่อมา เพดานบินได้ตกวูบลงจากระดับ 30,000 ฟุต ภายในเวลาแค่ 2 นาที ก่อนจะดิ่งกระแทกพื้นด้วยความเร็ว 350 ไมล์ต่อชั่วโมง (ราว 563 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
ด้านเจ้าหน้าที่สืบสวนคนอื่นๆ ซึ่งบอกว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตั้งข้อสันนิษฐานสาเหตุที่ทำให้เครื่องบินตกนั้น เปิดเผยว่า เครื่องบินได้หยุดส่งข้อมูลเป็นเวลา 96 วินาที ขณะดิ่งตก