จีนพบผู้ติดเชื้อในวันเดียวเกิน 1,500 ราย เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี โดยทางการเริ่มปรับวิธีตรวจโรค โดยให้อนุมัติชุดตรวจโรคด้วยตัวเองให้ประชาชนใช้เป็นครั้งแรก
สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า จีนแผ่นดินใหญ่พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่า 1,500 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึงวันเสาร์ที่ 12 มี.ค. 2565 มากที่สุด นับตั้งแต่เกิดการระบาดระลอกแรกเมื่อช่วงต้นปี 2563 ในขณะที่การมาของเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้จีนต้องใช้มาตรการตรวจโรคด้วยตัวเองเป็นครั้งแรก
ตามการเปิดเผยของคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน พวกเขาพบการติดเชื้อโควิด-19 ในท้องถิ่น 476 ราย และพบผู้ติดเชื้อแบบไม่มีอาการ ซึ่งจีนไม่นับว่าเป็นผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันอีก 1,048 ราย
ทั้งนี้จีนมีนโยบายรับมือโควิดแบบกำจัดเชื้อให้หมดสิ้น ซึ่งจะใช้มาตรการเข้มงวดอย่างการล็อกดาวน์และตรวจโรคเป็นวงกว้างทันทีที่พบผู้ติดเชื้อในชุมชนใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูง ทำให้หลายเมืองต้องใช้มาตรการเว้นระยะห่างต่างๆ เช่น ยกเลิกงานอีเวนต์, ตรวจโรคเป็นวงกว้าง และลดการเข้าเรียนแบบพบหน้า
อย่างไรก็ตาม การมาของไวรัสโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์ก่อน ทำให้จีนเริ่มปรับมาตรการตรวจโรค โดยอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปสามารถซื้อชุดตรวจโรคจากร้านค้าและร้านออนไลน์มาตรวจโรคด้วยตัวเองได้เป็นครั้งแรก และอนุมัติการใช้ชุดตรวจโรคแบบแอนติเจน 5 ชนิด ซึ่งผลิตโดยบริษัทท้องถิ่น ในวันเสาร์ที่ผ่านมา.