สหรัฐฯ คว่ำบาตรผู้มีอำนาจและมหาเศรษฐีในรัสเซียเพิ่ม โดยมุ่งเป้าที่คนสนิทของ วลาดิเมียร์ ปูติน และครอบครัว รวมถึงเล่นงานบริษัทที่ให้ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับการรุกรานยูเครนด้วย
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า สหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อผู้มีอำนาจและเศรษฐีชาวรัสเซียเพิ่มเติมในวันพฤหัสบดีที่ 3 มี.ค. 2565 โดยมุ่งเป้าไปที่คนสนิทของประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน จำนวน 8 คน พร้อมกับครอบครัวของพวกเขา ซึ่งจะมีผลตัดคนกลุ่มนี้ออกจากระบบการเงินของสหรัฐฯ, ทรัพย์สินของพวกเขาในสหรัฐฯ จะถูกอายัด ขณะที่อสังหาริมทรัพย์จะถูกสั่งห้ามใช้
ผู้ที่ถูกคว่ำบาตรเพิ่มเติมได้แก่ 1. นายนิโคไล โตคาเรฟ พร้อมนางกาลินา ภรรยากับ เมย์ยา ลูกสาว และบริษัทอสังหาริมทรัพย์อีก 2 แห่งของเขา
2. นายบอริส โรเตนเบิร์ก เจ้าของบริษัท SGM ผู้ผลิตท่อส่งก๊าซและสายส่งพลังงานไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดของรัสเซีย และเพื่อนฝึกยูโดของปูติน ถูกคว่ำบาตรพร้อม นางคารินา ภรรยาและลูกชาย 2 คนคือ โรมัน และ บอริส จูเนียร์
3. นายอาร์คาดี โรเตนเบิร์ก เจ้าของร่วมบริษัท SGM พี่ชายขอนายบอริส ถูกคว่ำบาตรกับ ลูกชาย 2 คน คือ พาเวลและอิกอร์ กับลูกสาวอีก 1 คนคือ ลิลิยา
4. นายเซอร์เก เชเมซอฟ ซีอีโอของกลุ่มบริษัท รอสเทค เพื่อนของปูติน ถูกคว่ำบาตรกับ เยคาเทรินา ภรรยา, ลูกชายและลูกสาวชื่อ สตานิสลาฟ และอนาสตาเซีย
...
5. นายอิกอร์ ชูวาลอฟ พร้อมกับบริษัท 5 แห่งที่เขาเป็นเจ้าของ, นางโอกา ภรรยา, เยฟจีนี ผู้เป็นลูกชาย, บริษัทและเครื่องบินเจ็ตของเยฟจีนี และมาเรีย ลูกสาวพร้อมกับบริษัทของเธอ
6. นายเยฟจีนี พริโกชิน พร้อมบริษัท 3 แห่งของเขา, นางพอลินา ภรรยา กับลูกสาวและลูกชายของเขาคือ ลูบอฟกับพาเวล
7. นายดีมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย และคนสนิทของปูติน
8. อาลิเชอร์ อุสมานอฟ ผู้ก่อตั้ง ยูเอสเอ็ม โฮลดิ้ง หนึ่งในมหาเศรษฐีระดับต้นๆ ของโลก ซึ่งเพิ่งถูกเยอรมนีอายัดเรือซุปเปอร์ยอชต์ลำใหญ่ที่สุดของโลก และเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวลำใหญ่ที่สุดที่มีเอกชนเป็นเจ้าของในรัสเซีย
สหรัฐฯ ยังสั่งจำกัดวีซ่าแก่ผู้มีอำนาจและมหาเศรษฐีรัสเซียอีก 19 คน พร้อมกับสมาชิกครอบครัวกับคนสนิทพวกเขาทั้งสิ้น 47 คน ที่สหรัฐฯ รู้ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรง, ให้อำนาจ, ออกทุน, สนับสนุน หรือทำกิจกรรมที่สนับสนุนนโยบายสั่นคลอนเสถียรภาพต่างประเทศของรัฐบาลรัสเซีย
ด้านกระทรวงการคลังจะคว่ำบาตรบริษัทและองค์กรที่ช่วยรัฐบาลปูตินเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรุกรานยูเครน ซึ่งรวมถึงกองทุนวัฒนธรรม SDN กับบุคคลชาวรัสเซียและชาวยูเครน 26 คน ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทและองค์กรดังกล่าวด้วย