• อังกฤษต้องเผชิญกับวิกฤติค่าครองชีพที่พุ่งสูง สวนทางกับค่าแรงที่ปรับลดลงท่ามกลางวิกฤติเงินเฟ้อ 
  • 5 ปัจจัยที่จะกระทบครัวเรือนอังกฤษในปีนี้ ได้แก่ อัตราภาษี, เงินเฟ้อ, ราคาพลังงาน, ค่าเดินทาง และ ค่าแรง ซึ่งราคาพลังงานที่มีโอกาสปรับสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ผู้มีรายได้น้อยต้องเลือกใช้จ่ายระหว่างค่าอาหารและค่าพลังงาน
  • นำไปสู่การลุกฮือประท้วงเรียกร้องให้แก้ไขค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยผู้ประท้วงชี้ว่ารัฐบาลอังกฤษล้มเหลวในการจัดการกับปัญหาดังกล่าว ขณะที่บางส่วนมองว่าวิกฤติค่าครองชีพเป็นวิกฤติที่แรงงานไม่ได้ก่อ แต่กลับต้องเป็นฝ่ายรับภาระที่หนักหน่วง

ทั่วโลกต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่ราคาพุ่งขึ้นกันตั้งแต่ต้นปี หนึ่งในนั้นคือประเทศอังกฤษ ที่ค่าครองชีพได้ปรับขึ้น จนนำไปสู่การประท้วงค่าครองชีพในประเทศ ซึ่งเสียงจากภาคแรงงานชี้ว่าค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้นสวนทางกับค่าแรงที่ลดลง สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ยังไม่รวมปัญหาราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มแพงขึ้นอีก 

ส่วนค่าประกันสังคมในอังกฤษ จะปรับขึ้น 1.5 เปอร์เซ็นต์ เช่นเดียวกับตัวเลขเงินเฟ้อ ราคาพลังงาน และค่าน้ำ ที่ปรับขึ้นทั้งหมด ส่วนอัตราราคาผู้บริโภค หรือ ซีพีไอ รอบปีของอังกฤษขยับขึ้น 5.4 เปอร์เซ็นต์ นับว่าสูงที่สุดในรอบ 30 ปี และมีโอกาสปรับขึ้นถึง 7 เปอร์เซ็นต์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งภาระส่วนใหญ่ก็ตกไปอยู่ที่ผู้บริโภคอย่างเลี่ยงไม่ได้ และผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย 

...

อาหารแพงหูฉี่ ค่าไฟปรับขึ้น 

อาหารในอังกฤษนั้นปรับสูงขึ้น โดย แจ็ค มอนโร นักเขียนเกี่ยวกับอาหาร ระบุว่า ราคาอาหารพื้นฐานนั้นปรับขึ้นสูงกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค ในช่วงปีที่ผ่านมาพบว่าราคาพาสต้าประเภทที่มีราคาถูกที่สุดนั้นแพงขึ้นถึง 141 เปอร์เซ็นต์ ส่วนราคาข้าวสาลีต่อกิโลกรัมนั้นปรับขึ้นทะลุ 340 เปอร์เซ็นต์ ยังไม่รวมราคาถั่วกระป๋องและแอปเปิ้ลที่ปรับขึ้นทั้งหมด แต่ถึงแม้หลายฝ่ายจะโทษว่าราคาค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นนั้นเป็นผลกระทบจากการบริหารจัดการของภาครัฐและบริษัทเอกชน แต่ จอห์น แอชมอร์ จาหนังสือพิมพ์ CapX ระบุว่า ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก เช่น ราคาต้นทุนการผลิตสินค้าที่ปรับขึ้น และปัญหาน้ำมันแพง 

ด้าน The Times รานงานความเห็นว่า รัฐบาลควรช่วยเหลือครัวเรือนที่มีรายได้น้อย เช่น ช่วยเหลือค่าไฟ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นรัฐบาลอังกฤษยังจำเป็นต้องปรับขึ้นเงินสมทบหลักประกันสุขภาพ เพื่อให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 

5 สิ่งที่จะกระทบครัวเรือนอังกฤษ 

ในปีนี้มี 5 ปัจจัยที่จะกระทบครัวเรือนอังกฤษ ได้แก่ อัตราภาษี, เงินเฟ้อ, ราคาพลังงาน, ค่าเดินทาง และ ค่าแรง ซึ่งราคาพลังงานที่มีโอกาศปรับสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ อาจทำให้ครัวเรือนในอังกฤษต้องเลือกระหว่างการเปิดฮีตเตอร์ให้ความอบอุ่น หรือจะนำเงินไปใช้จ่ายซื้ออาหาร 

ส่วนอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรพุ่งขึ้นเป็น 5.4 เปอร์เซ็นต์ สูงที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี ครั้งล่าสุดที่สหราชอาณาจักรมีอัตราเงินเฟ้อสูงคือ ค.ศ.1992 ที่อัตราเงินเฟ้อแตะ 7.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อในปีนี้อาจแตะระดับดังกล่าวอีกครั้ง ซึ่งชาวอังกฤษบางส่วนระบุว่า ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นทำให้พวกเขาชักหน้าไม่ถึงหลัง ต้องแบกรับทั้งค่าอาหารและค่าเช่าที่แพงขึ้น สำนักข่าวบีบีซี รายงานบทสัมภาษณ์ของนายริชาร์ด วอล์กเกอร์ หัวหน้าสาขาซุปเปอร์มาร์เก็ตไอซ์แลนด์ ระบุว่า ลูกค้าหลายรายไม่สามารถสู้ราคาอาหารที่พุ่งสูงขึ้นได้ ขณะที่บางรายต้องเลือกใช้จ่ายระหว่างค่าอาหารและค่าไฟ ทำให้ต้องหันไปพึ่งธนาคารอาหาร ส่วนค่าจ้างก็ไม่ได้ปรับขึ้นตามค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้คนรุ่นใหม่สะสมเงินเก็บได้ยากขึ้นเช่นกัน

...

ปชช.ลุกฮือประท้วงทั่วสหราชอาณาจักร

ปัญหาค่าครองชีพได้นำไปสู่การประท้วงสถานการณ์ค่าครองชีพทั่วสหราชอาณาจักร โดยมีการรวมตัวกันในเมือง 25 แห่ง ในจำนวนนี้มีเมืองใหญ่อย่างกรุงลอนดอน และเมืองแมนเชสเตอร์ของอังกฤษ รวมถึงกรุงเอดินบะระของสกอตแลนด์ ผู้ประท้วงได้ถือป้ายเรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาปากท้อง และค่าน้ำ-ไฟ ที่แพงขึ้นจนหลายครัวเรือนไม่สามารถแบกรับไหว 

ด้านลอร่า พิดคอก อดีตสมาชิกพรรคแรงงานของอังกฤษ ระบุว่า สถานการณ์ขณะนี้ทำให้ประชาชนได้รู้สึกโกรธแค้นและลุกฮือเพื่อต่อต้านค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในขณะที่รัฐบาลอังกฤษล้มเหลวในการแก้ปัญหาดังกล่าว พร้อมทั้งระบุว่า แรงงานไม่ควรต้องทำงานหนักขึ้น แต่กลับใช้ชีวิตยากขึ้น ขณะที่บางส่วนมองว่าวิกฤติค่าครองชีพเป็นวิกฤติที่แรงงานไม่ได้ก่อ แต่กลับต้องเป็นฝ่ายรับภาระที่หนักหน่วง รวมถึงมีการเสียดสีว่า คุณภาพชีวิตในอังกฤษนั้นตกต่ำลงภายใต้รัฐบาลปัจจุบัน ขณะที่ประชาชนต้องการให้แก้ปัญหาปากท้อง แต่กลับมีการใช้เงินกว่าล้านปอนด์เพื่อซ่อมหอนาฬิกาบิ๊กเบน ทำให้ปัญหาวิกฤติค่าครองชีพในปีนี้นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข.

...

ผู้เชียน: นัฐชา กิจโมกข์ (Nattachar K.)

ที่มา: Theguardian, Theguardian, TheguardianTheweek