รถเทสลาของอีลอน มัสก์ ซึ่งถูกส่งออกนอกอวกาศเมื่อ 4 ปีก่อน ยังคงอยู่ดี เดินทางไปแล้วเป็นระยะทางนับพันไมล์ โคจรรอบดวงอาทิตย์แล้วมากกว่า 2 รอบ
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานในวันอังคารที่ 8 ก.พ. 2565 ว่า สัปดาห์นี้เมื่อ 4 ปีก่อน บริษัท สเปซเอ็กซ์ ยิงจรวดนำส่งที่ทรงพลังที่สุดในโลกนามว่า ‘ฟอลคอน เฮฟวี่’ รอบปฐมฤกษ์จากฐานปล่อยจรวดในรัฐฟลอริดา ส่งรถยนต์ไฟฟ้า เทสลา โรดสเตอร์ ของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐกิจและซีอีโอของทั้งบริษัทเทสลากับสเปซเอ็กซ์ออกสู่อวกาศ
4 ปีผ่านไป รถยนต์สีแดงเชอร์รี่คันนี้ซึ่งมีหุ่นคนสวมชุดอวกาศชื่อเล่นว่า ‘สตาร์แมน’ ติดสอยห้อยตามไปด้วยนั้น ก็ยังคงลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศ โคจรอย่างโดดเดี่ยวเป็นวงรีรอบดวงอาทิตย์ในระยะห่างไกลสุดเทียบเท่าวงโคจรของดาวอังคาร และใกล้สุดเท่าวงโคจรโลก รวมเป็นระยะทางเกือบ 2 พันล้านไมล์ วนรอบดวงอาทิตย์แล้ว 2.6 รอบ และยังคงเดินทางต่อไป
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รถยนต์โรดสเตอร์ล่องลอยที่ระยะห่าง 234 ล้านไมล์จากโลก และห่างจากดาวอังคารราว 200 ล้านไมล์ ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ ‘whereisroadster.com’ ซึ่งนาซาใช้เพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์คันนี้ โดย โจนาธาน แมกโดเวลล์ นักบินอวกาศที่ศูนย์ ฮาร์วาร์ด สมิธโซเนียน คาดว่า รถคันนี้ยังคงเป็นชิ้นเดียวกันอยู่ แต่อาจชนกับอุกกาบาตบ้าง
อย่างไรก็ตาม นาซาเชื่อว่า โรดสเตอร์ จะเข้าใกล้วัตถุอวกาศอื่นๆ บ้างเป็นครั้งคราว โดยในปี 2563 มันเคยเข้าใกล้ดาวอังคารในระยะห่างต่ำกว่า 5 ล้านไมล์ หรือราว 20 เท่าของระยะห่างระหว่างโลกกับดวงจันทร์มาแล้ว แต่หลังจากนี้มันจะไม่เข้าใกล้ดาวเคราะห์ดวงใดอีกจนถึงปี 2578 ก่อนจะเข้าใกล้ดาวอังคารอีกครั้งในปี 2590 และ 2593 ในระยะห่าง 2-3 ล้านไมล์เท่านั้น
...
ขณะที่เอกสารเชิงวิชาการฉบับหนึ่ง ประเมินว่า โอกาสที่รถยนต์คนนี้จะโคจรมาชนโลกภายใน 15 ล้านปีข้างหน้านั้นอยู่ที่ 22% ส่วนโอกาสที่มันจะชนศุกร์หรือดวงอาทิตย์อยู่ที่ 12% ซึ่งศาสตราจารย์ ฮันโน เรน นักฟิสิกส์อวกาศจากมหาวิทยาลัยโทรอนโต หนึ่งในผู้เขียนผลวิจัยนี้ระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่สูงมาก
ทั้งนี้ รถยนต์โรดสเตอร์ ไม่ได้ถูกส่งไปเพื่อการทดลองทางวิทยาศาสตร์ สเปซเอ็กซ์เพียงต้องการทดสอบปล่อยจรวด ฟอลคอน เฮฟวี่ จึงจำเป็นต้องมีผู้โดยสารและสิ่งของจำลองบรรทุกไปด้วย โดยอีลอน มัสก์ เคยพูดเอาไว้ว่า เขาอยากให้สัมภาระจำลองนั้นเป็นสิ่งที่บ้าบอที่สุดที่เราจะสามารถจินตนาการได้ และเขาก็เลือกรถยนต์หรูของตัวเอง