โจ ไบเดน เผย กองกำลังพิเศษออกปฏิบัติการโจมตีในซีเรีย สังหารหัวหน้าใหญ่รุ่นที่ 2 ของกลุ่มติดอาวุธ ไอซิส ได้สำเร็จ ท่ามกลางรายงานว่ามีพลเรือนเสียชีวิตนับสิบราย
สำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ประกาศในเช้าวันพฤหัสบดีที่ 3 ก.พ. 2565 ว่า กองกำลังพิเศษของสหรัฐฯ สามารถสังหารนายอาบู อิบราฮิม อัล-ฮาชิมี อัล-คูรอชี หัวหน้าใหญ่รุ่นที่ 2 ของกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอซิส) ได้แล้ว ในปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศซีเรีย เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา
ปฏิบัติการดังกล่าวนับเป็นการบุกโจมตีครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ปี 2562 ที่พวกเขาสังหารนาย อาบู บาการ์ อัล-บักห์ดาดี หัวหน้าใหญ่รุ่นก่อนของไอซิส โดยกลุ่ม ‘หมวกกันน็อกขาว’ (White Helmets) ซึ่งเป็นกลุ่มป้องกันพลเรือนในซีเรียระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ศพในการปะทะกันทั้งระหว่างและหลังการบุกโจมตี รวมถึงเด็ก 6 รายและผู้หญิงอีก 4 ราย ขณะที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่าไม่มีชาวอเมริกันเสียชีวิต
ด้านนายไบเดน ระบุในงานแถลงข่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ได้จัดการหนึ่งในผู้นำกลุ่มก่อการร้ายขนาดใหญ่ออกจากสนามรบแล้ว และเสริมว่า สหรัฐฯ เลือกใช้กองกำลังพิเศษในการบุกโจมตีเพื่อลดการบาดเจ็บล้มตายของประชาชนให้น้อยที่สุด “เรารู้ว่าผู้ก่อการร้ายมักเลือกที่จะอยู่ห้อมล้อมด้วยครอบครัวตัวเอง ซึ่งรวมถึงเด็กๆ เราจึงตัดสินใจใช้การบุกโจมตีกองกำลังพิเศษซึ่งมีความเสียหายต่อคนของเรามากกว่า แทนที่เล็งโจมตีเขาด้วยการโจมตีทางอากาศ”
...
ขณะที่ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า พวกเขาจะดำเนินการทบทวนหลังการบุกโจมตีอย่างละเอียด หลังหนึ่งในเจ้าหน้าที่อาวุโสของรัฐบาลไบเดนระบุว่า ในช่วงเริ่มต้นของปฏิบัติการ ผู้ก่อการร้ายเป้าหมายจุดระเบิด ซึ่งสังหารตัวเขาและครอบครัว ที่ประกอบด้วยผู้หญิงกับเด็กหลายคน “แม้ว่าเรากำลังอยู่ระหว่างประเมินผลลัพธ์ของปฏิบัติการนี้ แต่ดูเหมือนว่านี่จะเป็นยุทธวิธีขี้ขลาดเดิมๆ ของผู้ก่อการร้ายที่เราเห็นในปฏิบัติการกำจัด อัล-บักห์ดาดี เมื่อปี 2562”
ทั้งนี้ กลุ่มไอซิสตั้งนาย อัล-คูรอชี เป็นหัวหน้าใหญ่คนใหม่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2562 ไม่ถึงสัปดาห์หลังจากนาย อัล-บักห์ดาดี ถูกสังหาร
โดยในปฏิบัติการเมื่อวันพุธ ผู้เห็นเหตุการณ์กับกลุ่มหมวกกันน็อกขาวบอกกับ ซีเอ็นเอ็น ว่า มีการใช้ปืนครกและระเบิดโจมตีก่อนที่กองกำลังของสหรัฐฯ จะโดดร่มลงมาในช่วงหลังเที่ยงคืนและโจมตีบ้านหลังหนึ่งในเมืองอัตเมห์ ในจังหวัดอิดลิบ บริเวณชายแดนซีเรียติดกับตุรกี โดยนอกจากผู้เสียชีวิตทั้ง 13 คนแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน และอาคารถูกทำลายบางส่วนด้วย
ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์อีกคนระบุว่า มีการยิงปืนกลลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำที่บินอยู่บนฟ้า ตามด้วยระเบิดในไม่กี่นาทีต่อมา