ชาวเมียนมาตามเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ร่วมกันจัดการประท้วงเงียบในวันครบรอบ 1 ปี การรัฐประหารของกองทัพ ท่ามกลางคำขู่ว่าผู้ประท้วงอาจถูกตั้งข้อหากบฏ

สำนักข่าว แชนเนลนิวส์เอเชีย รายงานว่า ผู้ประท้วงต่อต้านการรัฐประหารทั่วเมียนมา ขัดขืนคำสั่งของรัฐบาลทหารที่ห้ามจัดการประท้วงเนื่องในวันครบรอบ 1 ปีการก่อรัฐประหารของกองทัพยึดอำนาจจากรัฐบาลประชาชนของนางออง ซาน ซูจี ด้วยการร่วมกันประท้วงเงียบและปรบมือในวันที่ 1 ก.พ. 2565

การรัฐประหารดังกล่าวซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกันนี้ของปีก่อน ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากออกมาประท้วงต่อต้าน ซึ่งรัฐบาลทหารใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงจนมีพลเรือนเสียชีวิตมากกว่า 1,500 ศพ กองกำลังติดอาวุธทั้งเก่าและใหม่ลุกขึ้นต่อต้าน ทำให้เกิดการปะทะกันมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากมาจนถึงทุกวันนี้

ในวันอังคารที่ 1 ก.พ. 2565 ชาวเมียนมาในนครย่างกุ้ง อันเป็นศูนย์กลางการค้าของประเทศ และที่เมืองใหญ่อันดับ 2 อย่างเมืองมัณฑะเลย์ จัดการประท้วงเงียบ ก่อนจะร่วมกันปรบมือ ในเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อเป็นสัญญาณสิ้นสุดการประท้วงในวันดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารออกคำสั่งห้ามประท้วงในวันครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร และสั่งให้ร้านค้าต้องเปิดทำการในวันดังกล่าวมิเช่นนั้นจะต้องถูกปิดกิจการ นอกจากนั้นยังขู่ว่า การประท้วงเสียงดังหรือการเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อต่อต้านกองทัพ อาจนำไปสู่การตั้งข้อหากบฏ หรือก่อการร้าย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าที่นครย่างกุ้งกับเมืองมัณฑะเลย์ มีการจัดแฟลชม็อบชูป้ายหนุนประชาธิปไตยและจุดพลุแฟลร์ ก่อนที่ท้องถนนจะเริ่มว่างเปล่าตั้งแต่เวลา 10.00 น. เช่นเดียวกันที่เขตตะนาวศรี ทางใต้ของประเทศ

...

ด้านพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหาร ออกแถลงการณ์ย้ำอีกครั้งว่า กองทัพก่อการร้ายยึดอำนาจหลังจากพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของนางซูจี โกงการเลือกตั้ง ในปี 2563 แม้ว่าในสายตาของผู้ตรวจสอบระหว่างประเทศจะมองว่าการเลือกตั้งดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเสรีและยุติธรรมก็ตาม มิน อ่อง หล่าย ระบุอีกว่า จะจัดการเลือกตั้งเมื่อเสถียรภาพของประเทศกลับคืนมาแล้ว

ทั้งนี้เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และแคนาดา ประกาศคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ของเมียนมาร่วมกัน ซึ่งรวมถึงคนที่เกี่ยวข้องกับการไต่สวนดำเนินคดีนางออง ซาน ซูจี ด้วย หลังจากอดีตผู้นำเมียนมารายนี้ถูกตั้งข้อหามากมายนับตั้งแต่เกิดการรัฐประหาร