6 กันยายน 2017 ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย ตื่นเช้า ที่ลุตสค์ เมืองในภาคตะวันตกของอูเครน ก่อนเดินทาง 450 กิโลเมตร ไปยังจังหวัดโวลีนโอบลาสต์ (ใกล้โปแลนด์และเบลารุส) อาจารย์นิติภูมิธณัฐไปพูดให้นักศึกษามหาวิทยาลัยยุโรปตะวันออกแห่งชาติ นักศึกษาชาวอูเครนในภูมิภาคนี้สนใจเรียนภาษาโปลของโปแลนด์ แม้แต่ศาสนาก็นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกแบบโปแลนด์ (ชมคลิปการบรรยายและการไปเยือนโบสถ์ได้ที่ไลน์ไอดี @ntp59)

ตระเวนไปในภาคตะวันตกของอูเครนเป็นเวลากว่าสองสัปดาห์ ทำให้เรารู้ว่าหากรัสเซียและอูเครนมีปัญหากันจนกระทั่งอูเครนบ้านแตกสาแหรกขาด ประเทศรอบอูเครนจะได้พื้นที่เพิ่ม ก่อนหน้าที่ภูมิภาคนี้จะเป็นคอมมิวนิสต์ อูเครนมีพื้นที่ขนาดเล็ก เมื่อเป็นคอมมิวนิสต์และมาอยู่ในสหภาพโซเวียตด้วยกันแล้ว คณะผู้บริหารโซเวียตจึงให้พื้นที่เพิ่มเติม เพื่อให้อูเครนเป็นสาธารณรัฐใหญ่และรวมอยู่ในสหภาพโซเวียตได้

โซเวียตบังคับเอาดินแดนในอดีตจากประเทศโน้นชาตินี้มาโปะให้อูเครน หากอูเครนถูกกลไกซับซ้อนของสหรัฐฯและตะวันตกเล่นงานจนทำให้ต้องแตกอย่างยูโกสลาเวีย ประเทศยุโรปที่มีพรมแดนติดกับอูเครนอาจจะได้พื้นที่คืน เราคงเสียใจไม่น้อย ถ้าภาคตะวันตกของอูเครนต้องไปอยู่กับโปแลนด์ ดอนบัสรวมถึงแคว้นโดเนตสค์และแคว้นลูฮันสค์ต้องไปรวมกับรัสเซีย (ที่ผู้คนส่วนใหญ่มีเชื้อชาติรัสเซียและใช้ภาษากับวัฒน ธรรมรัสเซีย) พื้นที่บางส่วนอาจจะโดนผนวกให้ไปอยู่กับฮังการี สโลวัก โรมาเนีย หรือมอลโดวา หากไม่ไปผนวกรวมกับ ประเทศอื่น ภูมิภาคเหล่านี้อาจจะแยกออกไปตั้งเป็นประเทศเล็กๆ แบบเดียวกับการแตกของยูโกสลาเวียระหว่าง ค.ศ.1991– 2006 ก็เป็นได้

สื่อสหรัฐฯตะโกนก้องร้องถามว่ารัสเซียเอาทหารมาประชิดชายแดนทำไม ไม่ต้องถามรัสเซียดอกครับ ไอ้ปื๊ดก็เดาถูกว่าเป็น เพราะนาโตขนทหารและอาวุธมาไว้ในอูเครนบานเบอะเยอะแยะ เอาทหารมากองไว้ที่หน้าบ้านเขา คุณจะให้เขาเอาผ้าขาวมาปู หัวหมูมาวาง จุดธูป 3 ดอกแล้วนั่งกราบคุณหรือครับ ผมว่าเป็นความชอบธรรมของรัสเซียที่จะต้องป้องกันชายแดนของตนเอง

...

รัสเซียมีประสบการณ์ “เฉย” จนเคยเสียหายมาแล้ว โซเวียตกับเยอรมนีลงนามในสนธิสัญญาไม่รุกรานที่เรียกว่า Nazi-Soviet Pact หรือกติกาสัญญานาซี-โซเวียต (บางคนเรียกกติกาสัญญา ฮิตเลอร์-สตาลิน หรือกติกาสัญญาริบเบนทรอพ-โมโลตอฟ) สัญญา กันอย่างดิบดีว่าจะไม่รุกรานและก่อสงครามกันนาน 10 ปี และจะวางตัวเป็นกลาง หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถูกโจมตีโดยประเทศที่ 3 แต่ ใครจะนึกเล่าครับว่า 22 มิถุนายน 1941 เยอรมนีจะบุกโซเวียตโดย ไม่ได้ประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ ซึ่งตอนนั้นโซเวียตเกือบแพ้

กติกาสัญญานาซี-โซเวียตฝังอยู่ใต้ในสมองของรัสเซียทุกคน ว่าทั้งที่มีสนธิสัญญาไม่รุกรานกัน แต่ก็ยังถูกโจมตีจนได้ เรื่องสงครามและการเมืองระหว่างประเทศไว้ใจกันได้ยาก คราวนี้ก็เหมือนกัน แม้จะมีพิธีสารมินสค์ แต่ก็ไว้ใจสหรัฐฯและนาโตได้ยาก ด้วยเหตุนี้เอง รัสเซียจึงตัดสินใจนำกำลังทหารไปยันตามชายแดนไว้ก่อน ซึ่งก็อยู่ในเขตพื้นที่ของตนเองไม่เกี่ยวอะไรกับชาวบ้าน

รัสเซียไม่มีเงื่อนไขมากมายกับอูเครน ขอเพียงอย่างเดียว ขอให้ดูแลคนเชื้อชาติรัสเซียซึ่งปัจจุบันอยู่ในอูเครนประมาณ 4 ล้านคนด้วยความเป็นธรรม รัสเซียบอกมาตลอดว่าจะไม่บุกอูเครน ด้วยเรื่องอื่น มีเรื่องเดียวที่รัสเซียอาจจะต้องเข้าไป คือการเข้าไปช่วยชาวรัสเซียที่โดนรัฐบาลอูเครนรังแก ถ้ามีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น ปูตินจะไม่ยอม ทหารรัสเซียจะก้าวข้ามพรมแดน นาโตและอูเครน ก็ต้องตะโกนว่ารัสเซียบุกแล้ว จากนั้นก็ต้องเกิดสงคราม

โดนสหรัฐฯและตะวันตก “หักหลัง” มาหลายรอบ คราวนี้รัสเซียจึงขอเอกสารที่เป็นลายลักษณ์จากสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเจรจาเรื่องใดหรือตกลงกันอย่างไร ขอให้ตอบเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย สหรัฐฯอิดออดไม่ยอมให้ พอทวงหนักเข้า ก็บอกว่าจะให้ก็ได้แต่ห้ามนำไปเปิดเผย.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com