นายกฯ เข้าเฝ้ามกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย หารือปรับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาเป็นปกติ เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี ทั้งด้านการค้า การลงทุน รวมถึงการอนุญาตให้แรงงานไทยกลับเข้าไปทำงานได้ 

เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2565 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงการการณ์ภายหลังเดินทางเยือนประเทศซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ว่าได้เดินทางมาเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการ ตามคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นการเยือนในระดับผู้นำรัฐบาลระหว่างสองประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี

แถลงการณ์ระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้เข้าเฝ้าและพบหารือกับมกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทั้งสองฝ่าย
ได้เห็นชอบร่วมกันให้ปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติอย่างสมบูรณ์แล้ว
และพร้อมที่จะเปิดศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างกันต่อจากนี้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากความพยายาม
ในหลายระดับของทั้งสองฝ่ายที่มีมาในช่วงที่ผ่านมา

...

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับการดำเนินความสัมพันธ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซึ่งในระยะแรกจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตและการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี เพื่อรื้อฟื้นและส่งเสริมความร่วมมือในมิติต่างๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน อาทิ การค้าและการลงทุน ความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน สาธารณสุข และการท่องเที่ยว รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือในสาขาใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ อาทิ สิ่งแวดล้อม พลังงานหมุนเวียน และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังยืนยันที่จะร่วมมือและสนับสนุนซึ่งกันและกันในกรอบพหุภาคีต่างๆ ต่อไป

ในการเดินทางมาเยือนซาอุดีอาระเบียครั้งนี้ มีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ร่วมคณะมาด้วย เพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่างกันในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ด้าน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ระหว่างการเข้าเฝ้าในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าไทยให้ความสำคัญสูงสุดกับความสัมพันธ์ฉันมิตรกับชาอุดีอาระเบีย และแสดงความเสียใจยิ่งต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นที่ประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. 2532-2533 พร้อมยืนยันว่า ไทยได้พยายามอย่างที่สุดแล้วในการสะสางกรณีต่างๆ และหากมีหลักฐานใหม่ก็พร้อมที่จะนำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยพิจารณา

ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์อัล อัคบาริยา ของซาอุดีอาระเบีย รายงานข่าวการเยือนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมีโมฮาเหม็ด บิน อับดุลเราะห์มาน บิน อัลดุลลาซิซ รองผู้ว่าการกรุงริยาด เดินทางไปต้อนรับที่สนามบิน โดยรายงานข่าวระบุว่า เป็นการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของไทยครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปีนับตั้งแต่เกิดคดีเพชรซาอุฯ ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศต้องร้าวฉาน รัฐบาลซาอุดีอาระเบียประกาศลดความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทยลงนับตั้งแต่นั้นมา

ขณะเดียวกันรายงานข่าวระบุว่า การเยือนครั้งนี้มีขึ้นตามคำเชิญ ขององค์มกุฎราชกุมาร และมีขึ้นในขณะที่ซาอุดีอาระเบียกำลังต้องการที่จะผูกสัมพันธ์กับนานาประเทศทั่วโลก

ขณะที่การรายงานข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดีอาระเบียไปให้การต้อนรับนายกฯ ของไทย ไม่มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ สำหรับสื่อหลักมีเพียงการรายงานข่าวการเยือนและเผยแพร่ภาพนิ่งการพบหารือรองผู้ว่าฯ กรุงริยาดเพียงไม่กี่ภาพเท่านั้น.

ที่มา mfa.go.th Al Arabiya