ทั่วโลกกำลังจับตาการแพร่กระจายของเชื้อ BA.2 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของไวรัสโควิดโอมิครอน โดยตอนนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 8,000 ราย ใน 40 ประเทศ
สำนักข่าว อินดีเพนเดนต์ รายงานว่า สำนักงานความมั่นคงสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร (UKHSA) จัดให้ไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อย ‘BA.2’ ถูกจัดให้เป็นสายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การสืบสวนแล้ว หลังจากพวกเขาพบผู้ติดเชื้อตัวนี้แล้ว 426 ราย นับตั้งแต่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา
UKHSA ระบุว่า พวกเขาจะวิเคราะห์ BA.2 เพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบลักษณะพิเศษของมัน และทำความเข้าใจว่ามันจะส่งผลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรอย่างไรในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยข้อมูลเบื้องต้นชี้ว่า อัตราส่วนผู้ติดเชื้อ BA.2 ในอังกฤษเริ่มเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเมื่อเทียบกับสายพันธุ์หลักอย่าง BA.1 แต่ยังคงเป็นส่วนน้อย
ทั้งนี้ การแพร่กระจายของเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ BA.2 กำลังได้รับการจับตามองจากทั่วโลก หลังการวิเคราะห์เบื้องต้นของเหล่านักวิทยาศาสตร์อังกฤษพบว่า มันอาจติดต่อง่ายกว่าเชื้อสายพันธุ์หลัก แต่พวกเขายังไม่พบความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 สายพันธุ์มากนักโดยเฉพาะในเรื่องความรุนแรงของอาการป่วย
อย่างไรก็ตาม จนถึงตอนนี้ BA.2 ถูกพบแล้วในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก มีการส่งตัวอย่างลำดับพันธุกรรมเข้าสู่ฐานข้อมูลของ Gisaid ถึง 8,040 ราย นับตั้งแต่ 17 พ.ย. 2564 โดยมันกำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในอินเดีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นชาติแรกที่พบเชื้อสายพันธุ์นี้ ขณะที่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า อัตราส่วนผู้ติดเชื้อ BA.2 ในเยอรมนีกับเดนมาร์กกำลังเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายหลังพบส่งตัวอย่างลำดับพันธุกรรมถึง 6,411 ราย
...
BA.2 เติบโตเร็วเป็นพิเศษในเดนมาร์ก โดยพบใน 20% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่พบในสัปดาห์สุดท้ายของปี 2564 และเพิ่มขึ้น 4% ในสัปดาห์ที่ 2 ของปี 2565 โดย ดร.อันเดอร์ส ฟอมส์การ์ด นักวิจัยของสถาบันเซรุ่ม สเตเทนส์ (SSI) ของเดนมาร์ก ยอมรับว่า พวกเขายังอธิบายสาเหตุที่ทำให้ BA.2 เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วไม่ได้ แต่เชื่อว่าไม่น่ากังวล
“มันอาจมีความต้านทานภูมิคุ้มกันในหมู่ประชากรมากกว่า ทำให้มันติดต่อได้มากขึ้น เรายังไม่รู้” ดร.ฟอมส์การ์ดกล่าว และเสริมว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้ติดเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์หลัก อาจติดเชื้อ BA.2 ไม่นานหลังจากนั้นได้ ซึ่งหากเป็นแบบนั้น เดนมาร์กอาจได้เห็นจุดสูงสุดของการระบาดถึง 2 ครั้ง
ส่วนประเทศอื่นๆ ที่ส่งตัวอย่างลำดับพันธุกรรมเข้าสู่ฐานข้อมูลของ Gisaid มากกว่า 100 รายการ ได้แก่ อินเดีย, สวีเดน และสิงคโปร์ ส่วนที่สหรัฐฯ เริ่มมีรายงานพบผู้ติดเชื้อแล้วหลายราย