เรื่องราวของ หลุมก๊าซธรรมชาติดาร์วาซา ที่เป็นหลุมไฟขนาดยักษ์กว้าง 69 เมตร ลึก 30 เมตร อายุหลายสิบปี หรือรู้จักกันในชื่อ “ประตูสู่นรก” (Gateway to hell) ตั้งอยู่ในทะเลทรายการากุม ห่างจากกรุงอาชกาบัต เมืองหลวงของ เติร์กเมนิสถาน ประมาณ 260 กิโลเมตร จัดเป็นหนึ่งในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความลึกลับส่วนใหญ่แล้วเกิดจากอุบัติเหตุในการขุดเจาะโพรงก๊าซสมัยสหภาพโซเวียตในปี พ.ศ.2514 ปฏิบัติการครั้งนั้นเกิดความ ผิดพลาดทำให้แท่นขุดเจาะตกลงไปและพื้นโลกด้านล่างพังทลาย และเพื่อป้องกันไม่ให้ก๊าซแพร่กระจายออกมา นักวิทยาศาสตร์ในช่วงเวลานั้นจึงตัดสินใจจุดไฟเผาก๊าซ โดยคิดว่าจะมอดไหม้สิ้นภายใน 2-3 สัปดาห์ ทว่าผ่านมา 50 กว่าปีแล้วเปลวไฟก็ยังลุกโชนอย่างไรก็ตาม นักสำรวจชาวแคนาดา ได้ตรวจสอบความลึกของหลุมไฟดังกล่าวในปี พ.ศ.2556 แต่ผลที่ออกมาก็ยังไม่อาจไขความกระจ่างได้ว่าหลุมไฟแห่งนี้เริ่มต้นความเป็นมาอย่างไรล่าสุด ประธานาธิบดีกูร์บันกูลี เบอร์ดีมูคาเมดอฟ แห่งเติร์กเมนิสถาน ประกาศ วางแผน ที่จะดับไฟที่ประตูโลกันตร์แห่งนี้ โดยอ้างความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจ ว่าหลุมไฟส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง อีกทั้งยังกำลังสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าไปเปล่าๆ ปลี้ๆ ทั้งๆ ที่สามารถทำกำไรได้มาก และใช้ทรัพยากรเหล่านี้ไปปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนนี่ไม่ใช่ความพยายามครั้งแรกของผู้นำเติร์กเมนิสถาน เพราะย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2553 ตัวเขาเองได้เรียกร้องให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยกันหาวิธีดับไฟให้ได้ ทว่าความพยายามเหล่านั้นกลับไร้ผล หลุมก๊าซแห่งนี้จึงยังคงเผาไหม้ตลอดมาจนถึงปัจจุบันเมื่อยังหาทางดับไม่ได้ และยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกให้เดินทางมาชมสถานที่น่าตื่นตะลึงนี้ ในปี พ.ศ.2561 ประธานาธิบดีเบอร์ดีมูคาเมดอฟ ก็ได้เปลี่ยนชื่อหลุมไฟอย่างเป็นทางการว่า “ความโชติช่วงแห่งการากุม” (Shining of Karakum)หากแผนดับไฟสำเร็จเมื่อไหร่ “Gate way to hell” ก็จะเหลือเพียงตำนาน.ภัค เศารยะ