องค์การอนามัยโลกชี้มีหลักฐานมากขึ้น เชื้อโควิดโอมิครอน ทำให้เกิดอาการป่วยไม่รุนแรงเท่าเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้า แต่ถึงอย่างไร คงต้องมีงานศึกษาให้มากกว่านี้

เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 65 แชนเนลนิวส์เอเชียรายงาน องค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้ มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้นว่า เชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ก่อให้เกิดอาการป่วยที่รุนแรงน้อยกว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้า เนื่องจากเชื้อโควิดโอมิครอน โจมตีระบบทางเดินหายใจส่วนบน ไม่เหมือนกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ อีกทั้งเชื้อโควิดโอมิครอนได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แยกจากกันในบางพื้นที่ ระหว่างการพบผู้ติดเชื้อที่พุ่งสูงขึ้น กับอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิดที่ต่ำลง

"พวกเรากำลังได้เห็นการศึกษามากขึ้นๆ ที่บ่งชี้ว่าเชื้อโควิดโอมิครอนมีการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนของร่างกาย ไม่เหมือนกับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบติดเชื้อมากที่ปอด ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการปอดอักเสบ" อับดี มาฮามูด ผู้จัดการสถานการณ์ขององค์การอนามัยโลกกล่าวระหว่างการแถลงข่าวที่นครเจนีวา พร้อมกล่าวว่ามันสามารถเป็น 'ข่าวดี' แต่พวกเราก็ต้องการศึกษาให้มากกว่านี้เพื่อพิสูจน์ในเรื่องนี้

สำหรับการออกมากล่าวถึงความเสี่ยงของเชื้อโอมิครอนที่ทำให้เกิดอาการป่วยไม่รุนแรงเท่ากับเชื้อโควิดสายพันธุ์อื่นๆ ของเจ้าหน้าที่อาวุโสองค์การอนามัยโลกนี้ ได้มาจากการศึกษาจากหลายแห่ง รวมทั้งงานศึกษาวิจัยในแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ตรวจเจอเชื้อโอมิครอน และรายงานต่อองค์การอนามัยโลกเมื่อ 24 พ.ย.64

...

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการสถานการณ์ขององค์การอนามัยโลก ได้เตือนให้สังเกตระวังตามที่แอฟริกาใต้แจ้งว่า พบคนอายุน้อยติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยังเตือนว่า เชื้อโควิดโอมิครอนเป็นเชื้อที่แพร่กระจายติดเชื้อได้สูงจะกลายเป็นสายพันธุ์หลักในพื้นที่ต่างๆ จำนวนมากในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขในประเทศต่างๆ ซึ่งมีประชาชนที่ยังไม่ได้รับการฉีดวัคซีนยังมีอัตราสูง.