องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ อนุมัติใช้วัคซีนต้านโควิด-19 ของไฟเซอร์ เป็นวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 สำหรับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว พร้อมลดระยะห่างจากการฉีดโดสที่ 2 เหลือเพียง 5 เดือนในทุกกลุ่มอายุ
สหรัฐฯ เร่งเดินหน้าเรื่องการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 ในทุกกลุ่มอายุ โดยล่าสุดได้อนุมัติใช้วัคซีนจากไฟเซอร์เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่กลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว พร้อมทั้งยังย่นระยะเวลาการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 จากเดิมที่ต้องห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลา 6 เดือน ให้เหลือเพียง 5 เดือนในทุกกลุ่มอายุ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโอมิครอนให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังอนุมัติให้ใช้วัคซีนจากไฟเซอร์เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่เด็กอายุ 5-11 ปี เฉพาะกลุ่มเด็กที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเด็กที่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะด้วย
การตัดสินใจขององค์การอาหารและยาสหรัฐฯ ในครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่โรงเรียนต่างๆ ในสหรัฐฯ ทยอยเริ่มเปิดเรียนตามปกติหลังจากวันหยุดยาว ขณะที่เชื้อกลายพันธุ์โอมิครอนกำลังระบาดหนัก โดยใช้ข้อมูลจากอิสราเอลที่มีการฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้แก่เด็กอายุระหว่าง 12-15 ปีไปหลายพันคนแล้ว และได้เดินหน้ากระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่กลุ่มอายุ 16 ปีขึ้นไปอีกกว่า 4.1 ล้านคนในอิสราเอล หลังจากได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้วนาน 5 เดือน และไม่พบผลข้างเคียงน่ากังวลใดๆ อย่างไรก็ตาม ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องนี้ ซึ่งคาดว่าน่าจะทราบผลในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
...
ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดจากมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอบกินส์ ระบุว่าสหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ยราว 400,000 คนต่อวัน ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มพบการระบาดของโรคเมื่อ 2 ปีก่อน ขณะที่ยอดผู้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลก็เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังไม่สูงเท่ากับช่วงที่มีการระบาดสูงสุดเมื่อ 1 ปีก่อน โดยสิ่งที่น่าจับตาคืออัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากโรคโควิด-19 ของกลุ่มเด็กที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากประชากรกลุ่มเด็กส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน.