เดวิด ฟูลเลอร์ ยอมรับผิดในชั้นศาล ว่าเป็นผู้สังหารหญิงสาว 2 คนเมื่อ 34 ปีก่อน จนกลายเป็นหนึ่งในคดีปริศนาปิดไม่ลงมานานหลายสิบปี จนกระทั่งมีเทคโนโลยีใหม่ทำให้จับกุมตัวนายฟูลเลอร์ได้

สำนักข่าว เมโทร รายงานว่า นายเดวิด ฟูลเลอร์ อดีตช่างไฟฟ้าของโรงพยาบาลในสหราชอาณาจักร กล่าวยอมรับผิดระหว่างการไต่สวนที่ศาลเมืองเมดสโตน ในมณฑลเคนต์ ของอังกฤษ ว่าเขาเป็นผู้ลงมือสังหารหญิงสาว 2 คนได้แก่ เวนดี เนลล์ วัย 25 ปี และแคโรไลน์ เพียร์ซ วัย 20 ปี เมื่อปี 2529

นายฟูลเลอร์ถูกจับกุมตัวได้เมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน หลังจากเทคนิคการตรวจสอบดีเอ็นเอใหม่ชี้ตัวเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรมหญิงสาวทั้งสอง ที่เมืองทันบริดจ์ เวลส์ มณฑลเคนท์ ซึ่งถูกเรียกว่า “คดีฆาตกรรมเบดซิต” และเป็นคดีปริศนามายาวนานกว่า 34 ปี

ตำรวจยังตรวจสอบพบด้วยว่า นายฟูลเลอร์ล่วงละเมิดทางเพศศพผู้หญิงในห้องดับจิตจำนวนมาก ระหว่างที่เขาทำงานในโรงพยาบาล เคนต์ แอนด์ ซัสเซกซ์ และโรงพยาบาล ทันบริดจ์ เวลส์ ซึ่งเขายอมรับในศาลเช่นกันว่า เขาล่วงละเมิดศพอย่างน้อย 99 ราย โดยเป็นศพผู้หญิงอายุระหว่าง 9 ปีถึง 100 ปี

แต่ตำรวจเชื่อว่าผู้เสียหายอาจมีหลายร้อยราย เนื่องจากเขาทำงานที่โรงพยาบาลทั้ง 2 แห่งรวมกันกว่า 30 ปี โดยพวกเขาพบภาพหลักฐานว่านายฟูลเลอร์ล่วงละเมิดศพ และทุ่มงบประมาณถึง 2 ล้านปอนด์จัดทีมประสานงานกับครอบครัวต่างๆ เพื่อตามหาญาติของเหยื่อ และจนถึงตอนนี้พบศพที่อาจตกเป็นเหยื่อของนายฟูลเลอร์แล้ว 99 ราย

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังพบฮาร์ดดิสก์ 4 ชิ้นขนาดรวมกว่า 5 เทระไบต์ ติดอยู่หลังตู้ในบ้านของเขา ซึ่งภายในมีทั้งภาพและวิดีโอแสดงให้เห็นนายฟูลเลอร์ระหว่างล่วงละเมิดศพ ในโรงพยาบาลทั้งสองแห่ง เขายังสืบค้นข้อมูลเหยื่อของเขาจากโลกออนไลน์ รวมถึงจากเฟซบุ๊กด้วย

...

อัยการดันแคน แอตคินสัน กล่าวว่า ภาพที่พบเป็นหลักฐานว่า นายฟูลเลอร์ก่อเหตุเพราะความพึงพอใจทางเพศ ไม่ใช่เพราะอาการป่วยทางจิต โดยศาลจะมีการพิจารณาบทลงโทษจากข้อหาฆาตกรรม 2 กระทงและล่วงละเมิดศพในภายหลัง แต่คาดกันว่าเขาจะได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต และอาจถูกตัดสิทธิ์ขอทำทัณฑ์บนเพื่อปล่อยตัวก่อนกำหนดด้วย